![](https://www.praewprouds.com/wp-content/uploads/2020/12/คนเรามีชีวิตอยู่เพื่ออะไร_ยาว.png)
อยู่เพื่ออะไร : เหตุผลดีๆ ของการมีชีวิตอยู่
เราเคยตั้งคำถามกับตัวเองบ้างหรือเปล่าว่า "ชีวิตนี้ เกิดมาเพื่ออะไร เกิดมาเพื่อใคร มีชีวิตอยู่เพื่ออะไร มีชีวิตอยู่เพื่อใคร ยังมีลมหายใจอยู่เพื่ออะไร และยังมีลมหายใจไปเพื่อใครกัน ฯลฯ
เชื่อเหลือเกินว่า ทุกคนต้องเคยตั้งคำถามนี้กับตัวเอง บางคนก็มีคำตอบอยู่ในใจแล้ว บางคนกำลังค้นหาคำตอบอยู่ แต่หลายๆ คน แม้เพียรพยายามหาคำตอบเท่าไร ก็ยังหาไม่เจอสักที
![](https://www.praewprouds.com/wp-content/uploads/2020/12/23634cdf2.jpg)
ชีวิตไม่สิ้นต้องดิ้นกันต่อ
แต่เอาเถอะ!!!! อย่างไรเราก็ได้เกิดมาแล้ว การเกิดมาของเรา การมีชีวิตอยู่ของเรา และการยังมีลมหายใจอยู่ของเรานั้น ต้องพยายามทำมันให้มีคุณค่าและความหมายมากที่สุด โดยคำนึงนึกอยู่เสมอว่า
เกิดมาทั้งที ต้องอยู่เพื่อตนเองให้ได้ คือต้องช่วยเหลือพึ่งพาตนเองให้ได้ นำพาและพัฒนาตนเองไปสู่ความเจริญรุ่งเรือง หาไม่แล้ว ชีวิตก็จะเหลวไหล ไร้สาระ หาคุณค่าและความหมายในตัวเองไม่ได้ จนอาจนำพาชีวิตไปสู่ความตกต่ำเสียหายได้ (เสียทีที่ได้เกิดมา)
เกิดมาทั้งที ต้องทำตัวเองให้มีคุณค่า มีราคา มีความหมายกับบุคคลอื่น อย่างน้อยที่สุด ก็รู้ตัวอยู่เสมอว่า "นอกจากจะมีชีวิตอยู่เพื่อตัวเราเองแล้ว เรายังมีหน้าที่รับผิดชอบเพื่อที่จะอยู่กับคนที่เรารัก และเพื่อสังคมส่วนรวมอีกด้วย"
![](https://www.praewprouds.com/wp-content/uploads/2020/12/EOjUz3jUYAEn9Ub.jpg)
เพื่อให้การเกิดมามีชีวิตอยู่ของเรานั้นมีคุณค่าและเปี่ยมด้วยความหมาย เมื่อจากไปก็จากไปแบบไม่ต้องเป็นห่วงกังวล หรือนึกเสียดายว่า "เราไม่ได้ทำความดี หรือสิ่งที่น่าจดจำประทับใจใดๆ ไว้ให้กับโลกใบนี้เลย"
คือเกิดมาใช้ชีวิตแบบไร้ผลงาน หรือทิ้งผลงาน หรือความทรงจำที่แย่ๆ ไว้ให้กับสังคม กับโลก แบบนี้ก็เสียทีที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ พบพระพุทธศาสนาในชาติหนึ่งชาตินี้
การอยู่เพื่อตัวเอง คือเอาตัวเองให้อยู่รอดปลอดภัย พึ่งพาตนเองได้ อันเป็นคุณสมบัติส่วนตน ว่าทำได้ยากแสนยากแล้ว แต่ก็เป็นเพียงการเอาตัวรอดเพียงลำพังเท่านั้น หากแต่ยังขาดความเอื้อเฟื้อการุณย์ช่วยเหลือผู้อื่น ในเมื่อสามารถทำได้
อย่างนี้ก็เรียกว่า "ยังเห็นแก่ตัวอยู่" แต่การพึ่งพาตนเองได้แล้ว ยังมีลมหายใจเพื่อช่วยเหลือผู้อื่น ช่วยเหลือสังคมส่วนรวมได้ด้วย
แบบนี้ บัณฑิตชนทั้งหลายกเรียกว่า "เป็นผู้มีภาวะแห่งพระโพธิสัตว์" การมีชีวิตอยู่ของบุคคลเช่นนี้ นับว่ามีความหมาย มากมายด้วยคุณค่านับอนันต์ ด้วยเหตุผลดังกล่าวข้างต้น
![](https://www.praewprouds.com/wp-content/uploads/2020/12/65387553_1025240514344540_6988187999938805760_n.jpg)
เราจึงสามารถที่จะเลือกได้ว่า "เราจะอยู่เพื่อตนเอง ซึ่งอยู่ได้เพียงแค่สิ้นลม หรือว่าจะอยู่เพื่อสังคม ที่สามารถอยู่ได้อย่างเป็นอมตะ ตลอดนิจนิรันดร์"
บุคคลเช่นนี้ แม้ได้ตายจากโลกนี้ไปแล้ว ก็เสมือนยังมีชีวิตอยู่ ผู้คนต่างจดจำเล่าขานความดีของเขาไม่มีวันสิ้นสุด
![](https://www.praewprouds.com/wp-content/uploads/2020/12/article-1330891-0C20149C000005DC-623_964x468-1.jpg)
ในทางตรงกันข้าม หากมีชีวิตอยู่เพื่อเอาเปรียบ เห็นแก่ตัว หรือสร้างความเดือดร้อนเบียดเบียน เข่นฆ่า ทำลายล้างผู้อื่นอยู่ แม้ตายไปแล้ว ก็ได้ชื่อว่าอยู่เป็นอมตะ เปรียบเสมือนยังไม่ได้ตายเช่นเดียวกัน เพราะอกุศลกรรมที่ได้ทำไว้เมื่อครั้งมีชีวิตอยู่ ยังประทับอยู่ในความทรงจำของผู้คน ให้กล่าวขาน สาปแช่ง ก่นด่าอยู่ได้ทุกเมื่อเชื่อวัน....