3 ชั่ว… ตัววายร้าย
ทุกคนคนเคยได้ยิน และคุ้นชินกับคำว่า “ชั่ว” มาพอสมควร โดยทั่วไปแล้ว เราจะรู้จักความชั่วนี้ ในความหมายที่ไม่ดี ในความหมายเชิงตำหนิ ในความหมายในเชิงด่าทอดูถูก แต่ภาพความหมายในหัวของเราก็ยังคมปะปนผสมผสานรวมกันไปหมด ไม่ค่อยกระจ่างชัดแต่อย่างใด วันนี้ เรามารู้จักความชั่ว 3 อย่าง ซึ่งเป็นตัววายร้ายอย่างฉกาจฉกรรจ์ในการทำความดี หรือการที่จะประสบความสำเร็จในชีวิตได้ ซ้ำร้าย ยังจะนำพาชีวิตของเราไปสู่ความตกต่ำอย่างยากที่จะคาดเดาได้ จึงเป็นสิ่งที่ควรระวังอย่างมาก เพื่อไม่ให้เจ้าความชั่ว ซึ่งเป็นตัววายร้าย 3 ตัวนี้ มากล้ำกรายชีวิตของเรา ความชั่ว 3 อย่างนั้น ได้แก่
- กายทุจริต คือ ความชั่วทางกาย
- วจีทุจริต คือ ความชั่วทางวาจา หรือ คำพูด
- มโนทุจริต คือ ความชั่วทางใจ หรือ ทางความคิด
จะสังเกตได้ว่า ในภาษาบาลีจะใช้คำว่า “ทุจริต” แทนความหมายของคำว่า “ชั่ว”
ในภาษาไทยมักนิยมใช้คำว่า “ทุจริต” ทับศัพท์ลงไปเลย เมื่อใช้เรียกการกระทำที่ถือเป็นความชั่ว ผิดต่อตัวบทกฎหมาย จารีต ประเพณี และวัฒนธรรมประเพณีอันดีของชาติบ้านเมือง เช่น วลีที่ว่า “กระทำการทุจริตประพฤติมิชอบ” หรือคำว่า “การทุจริตคอรัปชั่น” เป็นต้น แต่คำว่า “ทุจริต” ในความหมายที่คนไทยโดยทั่วไปเข้าใจนั้นก็คือ ความฉ้อโกง, ความฉ้อราษฎร์บังหลวง, การติดสินบนเจ้าหน้าที่รัฐ หรือการโกงการเลือกตั้ง เป็นต้น
เมื่อเราสามารถจำแนกประเภทของความชั่วได้ออกเป็น 3 อย่างแล้วอย่างนี้ ทีนี้เราจะมาพิจารณาดูรายละเอียดของทุจริตหรือความชั่วทั้ง 3 อย่างนั้นไปพร้อมๆ กัน
- กายทุจริต หรือ ความประพฤติชั่วทางกาย หมายถึง ความชั่วที่ต้องกระทำผ่านทางกาย เช่น การทารุณกรรม การทำร้าย การประทุษร้าย การฆ่า การทำลาย การลักขโมย การปล้นจี้ การกระทำผิดประเวณี ประพฤตินอกใจคู่ครอง การดื่มสุรา การเสพยาเสพติดเป็นต้น เหล่านี้ทั้งหมด ถือเป็นการกระทำทุจริตทางกาย หรือเป็นการทำชั่วทางกาย
- วจีทุจริต หรือ คำพูดชั่ว คำพูดไม่ดี เช่น การพูดโกหก การพูดหลอกลวง การพูดประชดประชัน พูดส่อเสียด พูดแดกดัน การพูดคำหยาบคายให้เจ็บใจ การพูดคำพูดที่เพ้อเจ้อ หาประโยชน์หาสาระอะไรไม่ได้ เหล่านี้ทั้งหมด เป็นทุจริตทางวาจา หรือ การกระทำความชั่วทางวาจา
- มโนทุจริต หรือ ความคิดความอ่านที่เป็นสิ่งทุจริต หรือ ความคิดชั่ว คิดไม่ดี คิดไม่เป็นประโยชน์ คิดไม่สร้างสรรค์ คิดอิจฉา คิดริษยา คิดผูกอาฆาต คิดผิดไปจากความถูกต้องชอบธรรม คิดผิดไปจากทำนองคลองธรรม เป็นต้น เหล่านี้ทั้งหมด จัดอยู่ในมโนทุจริต หรือความคิดชั่ว
ทุจริต หรือ ความชั่วทั้ง 3 อย่างนี้ ถือเป็นตัววายร้าย ที่มีความร้ายกาจ เมื่อใดที่คนเราพลาดทำในสิ่งที่ทุจริตชั่วร้ายเหล่านี้ ก็จะทำให้ชีวิตประสบแต่วิบากกรรม ความทุกข์ยากลำเค็ญทั้งทางร่างกายและจิตใจ ประสบเคราะห์กรรม ต้องโดนลงโทษคุมขัง และต้องเสียทรัพย์สินเงินทองของรักไปมากต่อมาก ทำให้เสียอนาคต และร้ายแรงที่สุดคือ “เสียชาติเกิด” ที่เมื่อเกิดมาทั้งที ไม่สามารถทำความดีได้ เกิดมาทั้งที ไม่สามารเอาดีไว้ได้
ดังนั้น เราจึงควรหนีห่างความชั่ว หรือ ทุจริต ทั้ง 3 อย่างข้างต้นนั้นให้ไกลแสนไกล ประคับประคองชีวิตของเราให้ทำแต่เรื่องที่เป็นความสุจริต เป็นความดีเท่านั้น เพื่อให้ชีวิตของเราดำเนินไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองงอกงามไพบูลย์ ไม่ต้องจ่อมจมอยู่กับความเลวร้าย อันเป็นผลมาจากเจ้าจอมวายร้ายทั้ง 3 อย่าง ดังที่กล่าวไปแล้วในข้างต้นนั้น
เกิดมาทั้งที ต้องเอาดีให้ได้ มัวถลำหลงไหลไปกับความชั่ว จะมัวหมองในภายหลัง
“แพรว…ด้วยความรู้ – พราว…ด้วยประสบการณ์”