pin up1 winaviator mostbetpinup casino1 winmostbet kzmosbet casinoaviatorlucky jet1 winpin up casino india1win slotlucky jet casinopinup az4r betmosbet indiamosbet aviatormostbet casino1win kz1 win4rabet indiapin-up kzmosbetmosbet1 win1win1win aviatorpin upparimatchlucky jet4rabetмостбет1win loginpin up 777mostbet1 вин авиаторpin uplucky jet1 winpin up4rabetpinupmosbet1 winmostbet azluckygetmostbetmosbetmostbet casino1wınparimatch

น้ำใสเกินไป

น้ำใส

หลายๆ คนอาจมองว่า น้ำใสเป็นสิ่งที่ดี เพราะนอกจากจะแลเห็นเป็นน้ำที่ดูสะอาด ถูกสุขอนามัย และเป็นแหล่งน้ำจากธรรมชาติแล้ว ยังให้ความรู้สึกสดชื่นมีชีวิตชีวา ดูแล้วเคลียร์ ดูแล้วโปร่งใส ชัดเจน น่าจะเหมาะสำหรับการนำเอาไปเป็นน้ำสำหรับการอุปโภคบริโภค หรือไม่ก็ลงไปดำผุดดำว่ายให้สบายอุรา

แต่เชื่อหรือไม่ครับว่า แม้น้ำที่ใสๆ จะดูไร้พิษสงใดๆ ให้ต้องคลางแคลงใจ ดูสดชื่น ดูสื่อถึงความเป็นธรรมชาติที่สดชื่นบริสุทธิ์ก็ตาม ในยามที่มีใครก็ตามที่ต้องการหลบซ่อนตัวในน้ำที่ใสสะอาดเช่นนี้ ก็ไม่สามารถจะเป็นที่หลบลี้ซ่อนตัวให้ปลอดภัยจากศัตรูได้เช่นเดียวกัน

ดังนั้น หากพิจารณาในทางตรงข้าม หรือในมุมมองที่แตกต่างออกไปแล้ว ก็จะเห็นได้ว่า น้ำที่ใสสะอาดบริสุทธิ์เช่นนั้น หากเราต้องการเป็นที่หลบหลีกหนีจากศัตรูหรือต้องการความปลอดภัยจากนักล่าแล้ว น้ำใสๆ เช่นนี้ ก็อาจจะกลายเป็นสถานที่ที่อันตรายที่สุดสำหรับเราเลยก็ว่าได้

น้ำใสเกินไป ปลาก็อาศัยอยู่ไม่ได้

น้ำที่ใสเกินไป ปลาก็ไม่สามารถอยู่อาศัยได้ ก็เหมือนกับคนที่เคร่งครัดในระเบียบวินัยมากจนเกินไป คนก็ไม่อยากจะเข้าใกล้ ถึงแม้ว่าคนๆ นั้น จะมีความโปร่งใส ชัดเจน ตรวจสอบได้ หรือเป็นคนเปิดเผย ตงฉิน ตรงไปตรงมา ผิดเป็นผิด ถูกเป็นถูกก็ตาม คนๆ นี้ ก็ดูจะห่างไกลจากความเป็นมนุษย์ปุถุชนธรรมดาสามัญทั่วไป ซึ่งมีความอ่อนตัว มีความอะลุ่มอะหล่วย มีความปรานีปราศรัย มีความผ่อนปรน ผ่อนสั้นผ่อนยาว

เพราะในความเป็นจริงในชีวิตของคนในสังคมทั่วไป ก็ไม่ใช่ว่าเราจะอยู่กันในสังคมที่เป็นเสมือนกับไม้บรรทัดที่คอยวัดคุณธรรมและจริยธรรมกันอยู่ตลอดเวลาเสียเมื่อไหร่ แต่เป็นเพราะว่าสังคมในทุกวันนี้ ยังมีความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ผ่อนปรน อ่อนตัว ปรานีปราศรัยต่อกัน จึงเป็นสังคมที่น่าอยู่ดังเช่นที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน

ถึงแม้ว่าในอุดมคติของคนเราทุกๆ คนจะมีความปรารถนาให้สังคมมีความยุติธรรม มีระเบียบปฏิบัติที่ชัดเจนสักเพียงใดก็ตาม แต่ลึกๆ แล้ว ในทางปฏิบัติ คนเราทุกคนก็อาจจะมีคิด พูด หรือทำผิดพลาดไปบ้าง และทุกครั้งที่เราทำผิดพลาด เราก็ยังมีความต้องการให้คนให้อภัย และให้โอกาสเราได้แก้ไข แก้ตัว หรือเริ่มต้นใหม่

ดังนั้น การปฏิบัติต่อกันอย่างถ้อยทีถ้อยอาศัย อะลุ่มอะหล่วย ผ่อนปรน หรือเห็นอกเห็นใจกัน จึงมีความสำคัญมากกว่าการที่เราคอยจ้องจับผิด คอยชี้นิ้วตราหน้าใครต่อใครว่าเป็นคนผิด เป็นคนไม่ดี หรือเอามาตรฐานของตัวเองไปเที่ยววัดมาตรฐานของใครต่อใคร

ถึงแม้ว่าจะถูกในเชิงหลักการ แต่ก็ยังคงผิดในเชิงความสัมพันธ์ของการอยู่อาศัยร่วมกันในสังคม ซึ่งไม่สามารถที่จะนำเอาเพียงกฎระเบียบ หรือข้อบังคับมาบังคับใช้กับทุกคนในสังคมแต่เพียงอย่างเดียว หากแต่ต้องอยู่ด้วยกันด้วยความสัมพันธ์เชิงเครือข่ายที่มีความแน่นแฟ้น เข้าอกเข้าใจ ให้โอกาสซึ่งกันและกัน แบบนี้จึงจะนำพาสังคมไปสู่สันติสุขได้อย่าแท้จริง

ดังนั้น หากเปรียบสังคมที่เราอยู่อาศัยร่วมกันเป็นน้ำแล้ว ก็คงจะไม่มีใครยกมือขึ้นเพื่อปฏิเสธน้ำที่ใสแจ๋ว สะอาด ดูเป็นธรรมชาติ สบายตา น่ารื่นรมย์ แต่ถ้าจะให้ดีกว่านั้น น้ำที่ใสๆ ก็ควรมีโขดหิน พืชน้ำ ปลา และสัตว์น้ำสายพันธ์ุต่างๆ อาศัยรวมอยู่ด้วย เพราะไม่ใช่ว่าสิ่งเหล่านี้จะเป็นสิ่งที่ทำให้รกหูรกตา หากแต่คือระบบนิเวศที่เอื้อต่อการเป็นอยู่ของสัตว์น้ำในแหล่งน้ำนั้นๆ ด้วย เพราะแหล่งน้ำที่ใสแจ๋วแห่งนั้น จะไม่มีประโยชน์อะไรเลย หากไม่เป็นไปเพื่อเกื้อกูลต่อระบบนิเวศและสรรพชีวิต

เมื่อกล่าวโดยสรุปแล้ว ก็จะเห็นได้ว่า น้ำที่ใสเกินไป ก็ไม่ได้เอื้อต่อการอาศัยอยู่ของปลาแต่อย่างใด จะดีแค่ไหน หากแหล่งน้ำใสในที่นั้นๆ จะมีองค์ประกอบอื่นเข้ามามีส่วนร่วมด้วย เพื่อเป็นที่อาศัยหากินของปลา ที่วางไข่ ที่อนุบาลพันธุ์ลูกปลาเกิดใหม่ และที่หลบซ่อนจากศัตรูของปลา เช่นนี้แล้ว จึงจะถือได้ว่าเป็นแหล่งน้ำที่อุดมสมบูรณ์และเหมาะสำหรับการอยู่อาศัยของสรรพชีวิตได้อย่างแท้จริง

เปรียบกับคนเรา

หากเปรียบเทียบกับคนเราก็เช่นกัน คนที่ตงฉิน เคร่งครัดในระเบียบ ข้อบังคับทุกกระเบียดนิ้ว ก็เปรียบเสมือนกับน้ำที่ใสแจ๋ว แต่ยากที่จะหาปลามาแหวกว่ายอยู่อาศัยด้วย ฝูงปลาที่กลัวต่อภัยคุกคามความปลอดภัย ก็จะอพยพไปหาแหล่งน้ำแห่งใหม่ที่มีความเหมาะสมต่อการอยู่อาศัยมากกว่า คนเราเองก็เช่นเดียวกัน หากเคร่งครัดมากเกินไป คนก็ไม่อยากอยู่ด้วย เพราะอยู่ด้วยแล้วรู้สึกกดดัน อยู่แล้วต้องระวังตัวกลัวว่าจะทำอะไรทำผิดพลาดโดนต่อว่า โดนลงโทษต่างๆ นานา เหมือนกับมีคนจ้องจับผิดอยู่ตลอดเวลา ก็อาจทำให้รู้สึกอึดอัด ไม่มีอิสระในการที่จะทำอะไรเลยสักอย่าง

ในที่สุด ผู้คนก็จะพากันหนีหายไปหมด เพราะความเคร่งครัด หรือความตงฉินเกินเหตุของเรานั่นเอง ดังนั้น ก็ให้ทุกคนลองสำรวจตรวจตราพิจารณาดูตัวของเราเองด้วยนะครับว่า วันนี้ ตัวเราเองมีพฤติกรรมเคร่งครัดกับคนอื่นมากเกินไปหรือเปล่า ถ้าหากใช่ ก็ระวังว่า จะต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวเพียงคนเดียวโดยไม่เหลือใครอยู่เคียงข้างสักคนนะครับ …

ทุกท่านสามารถรับชมคลิปวีดีโอชวนคิดให้กำลังใจได้ที่ช่อง Youtube : Prayong Channel ด้านล่างนี้ครับ ขอบคุณครับ :