pin up1 winaviator mostbetpinup casino1 winmostbet kzmosbet casinoaviatorlucky jet1 winpin up casino india1win slotlucky jet casinopinup az4r betmosbet indiamosbet aviatormostbet casino1win kz1 win4rabet indiapin-up kzmosbetmosbet1 win1win1win aviatorpin upparimatchlucky jet4rabetмостбет1win loginpin up 777mostbet1 вин авиаторpin uplucky jet1 winpin up4rabetpinupmosbet1 winmostbet azluckygetmostbetmosbetmostbet casino1wınparimatch

มนุษย์ 5 จำพวก

เมื่อกล่าวถึงคำว่า “มนุษย์” แล้ว ย่อมมีทั้งดีและชั่วปะปนกันไป เพราะมนุษย์นั้นทำทั้งกรรมดีและกรรมชั่ว บางคนทำกรรมดีมากกว่า ก็เรียกขานกันว่า “คนดี” บางคนทำความชั่วบากกว่า ก็ถูกเรียกขานไปว่า “คนชั่ว”

ดังนั้น ในบทความนี้ เราจะมาทำความรู้จักกับคำว่า “มนุษย์” อย่างแยกประเด็นเจาะลึกออกมาเป็นแต่ละจำพวก ให้เห็นถึงความเหมือน และความแตกต่างกัน ทั้งโดยชื่อเรียก และความหมาย

มนุษย์จึงถูกแบ่งแยกจำแนกออกเป็นจำพวกๆ ได้เป็น 5 จำพวก ดังนี้ (อาจมีบางแห่งแบ่งจำแนกออกน้อยหรือมากจำพวกกว่านี้ ก็มี)

มนุสสเนรยิโก

มนุสสเนรยิโก หมายถึง มนุษย์สัตว์นรก ได้แก่ มนุษย์ผู้ดุร้าย หยาบคาย ฆ่าสัตว์ตัดชีวิตจี้ปล้นเอาทรัพย์สมบัติของผู้อื่นมาเป็นของตนโดยฆ่าเจ้าทรัพย์ตายบ้าง ทุบตีจนบาดเจ็บสาหัสบ้าง ข่มขืนแล้วฆ่าบ้าง เบียดเบียนผู้อื่นสัตว์อื่นทรมานผู้อื่นสัตว์อื่น เป็นคนไร้ศีลธรรม ไม่มีมนุษยธรรมคือศีล 5 ประจำตัวเลย

นามว่า “มนุสสเนรยิโก” แปลว่า มนุษย์สตว์นรก คือ เป็นมนุษย์แต่ชื่อ ส่วนความประพฤติทางกาย วาจา ใจนั้นเลวทราม ดุร้ายหยาบคายเหมือนสัตว์นรกฉะนั้น

2. มนุสสเปโต

มนุสสเปโต คือ มนุษย์เปรต ได้แก่ มนุษย์ผู้มากไปด้วยความโลภ มากไปด้วยตัณหา ชอบลักเล็กขโมยน้อยโลภเอาของผู้อื่นมาเป็นของตน แย่งชิงวิ่งราวเป็นต้น

แม้พวกที่เที่ยวขอทานด้วยอาการแห่งมิจฉาชีพ (คือไม่ได้เดือดร้อนลำบากจริงแต่ก็แกล้งทำเป็นพิการเดือดร้อนเป็นทุกข์ยากลำบาก แสร้งทำตัวน่าสงสารมาขอทาน) ก็สงเคราะห์เข้าในประเภทนี้ด้วย

3. มนุสสติรัจฉาโน

มนุสสติรัจฉาดน หรือ มนุษย์สัตว์เดรัจฉาน ได้แก่มนุษย์ทีขวางศีลขวางธรรม มีโมหะ คือ ความหลงมาก ไม่รู้จักบาป ไม่รู้จักบุญ ไม่รู้จักคุณ ไม่รู้จักโทษ ไม่รู้จักประโยชน์และมิใช่ประโยชน์ ไม่รู้จักบุญคุณของผู้มีพระคุณ เช่น บิดามารดา ครูบาอาจารย์ เป็นต้น เป็นมนุษย์ผู้ไรศีลธรรม ดืมสุรา เสพยาบ้า กินกัญชา ทำอะไรทางกาย วาจา ใจ ก็ขวางๆผิดทำนองคลองธรรม

นามว่า มนุสสติรัจฉาโน แปลว่ามนุษย์สัตว์เดรัจฉาน เดรัจฉาน แปลว่า ผู้ไปขวางคือเดินทอดตัว ไม่ได้เดินตั้งตัวเหมือนคน คนเดรัจฉานก็ฉันนั้น ทำอะไรก็ขวางธรรม ขวางวินัย คือขาดศีลธรรมเสมอๆ

4. มนุสสภูโต

มนุสสภูโต คือ ตัวเป็นมนุษย์ ใจก็เป็นมนุษย์ คือ มนุษย์แท้ๆ หมายถึงเป็นคนเต็มตัว ได้แก่ คนรักษาศีล 5 มั่นเป็นนิตย์ไม่ขาด ไม่ประมาทต่อศีลเพราะศีลเป็นมนุษยธรรม คือเป็นธรรมประจำมนุษย์ ธรรมที่ทำให้คนเป็นคน

มนุสสภูโ แปลว่า มนุษย์แท้ๆ เพราะมีคุณธรรมของคนคือศีล ศีล ท่านแปลว่า เศียร คือ หัว ถ้าคนขาดศีล ก็คือคนหัวขาดนันเอง เพราะขาดจากคุณธรรมของความเป็นคน

5. มนุสสเทโว

มนุสสเทโว หรรือ มนุษย์เทวดา ได้แก่มนุษย์ผู้รักษาศีล 5 มั่นเป็นนิตย์ แล้วยังได้พยายามบำเพ็ญกุศลเพิ่มพูนบารมีอยู่เรื่อยๆ เช่น ให้ทาน ฟังธรรม เรียนธรรม ปฏิบัติธรรม ไหว้พระสวดมนต์ มีหิริคือความละอายต่อบาป มีโอตตัปปะ คือความสดุ้งกลัวต่อผลแห่งบาปอยู่เสมอ เรียกว่าเป็นผู้มีใจสูงดุจเทวดา เพราะประกอบด้วยเทวธรรม 2 ประการ คือ หิริ-ความละอายชั่ว และโอตตัปปะ-ความกลัวบาป รวมถึงมีการสมาทานประพฤติธรรมอันดีงาม เป็นผู้สงบสำรวม และเป็นคนดีอีกด้วย

นอกจากนั้น ยังหมายถึงผู้ประพฤติวัตตบท 7 ประการ คือ บำรงเลี้ยงมารดาบิดา-ประพฤติอ่อนน้อมถ่อมตนต่อบุคคลผู้เจริญ-พูดจาไพเราะเสนาะหู อ่อนหวาน นุ่มนวล- ไม่พูดส่อเสียดผู้อื่น- ละความตระหนี่เหนียวแน่น- รักษาคำสัตย์ และเป็นผู้ไม่โกรธ มนุษย์ที่มีคุณสมบัติเช่นนี้ ท่านขนานนามว่า มนุสสเทโว แปลว่า มนุษย์เทวดา คือตัวมนุษย์ แต่จิตใจและความประพฤตินั้น ประดุจดังว่า “เทวดา” เลยทีเดียว

ดังนั้น หากเราโชคดีมีโอกาสได้เกิดเป็นมนุษย์แล้ว ก็อย่าเพิ่งดีใจได้ปลื้มไปเสียจนประมาทพลาดท่ากลายเป็นมนุษย์ในจำพวกที่ 1-3 เป็นเด็ดขาด เพราะมีร่างกายเป็นมนุษย์ก็จริง แต่มีจิตใจและความประพฤติต่ำกว่ามนุษย์ทั่วไปพึงกระทำได้ จงพยายามทำนุบำรุงความเป็นมนุษย์ของตนนั้นให้ดีงาม พัฒนาให้มีคุณธรรมสูงส่งยิ่งๆ ขึ้นไป อย่างน้อยที่สุดก็ให้ได้เท่ากับข้อที่ 4 หากจะพัฒนาต่อยอดไปสู่ความเป็นยอดมนุษย์ในข้อที่ 5 ก็จะเพิ่มความพิเศษยิ่งขึ้นไปอีก เป็นการพัฒนาตนเองจากที่มีคุณสมบัติดีงามอยู่แล้ว ไปสู่ความมีคุณสมบัติที่ดีเลิศยิ่งขึ้นไปอีก เรียกได้ว่า “เกิดมาแล้วได้กำไรชีวิต” …