โดย : Panya Dee (ดัดแปลงจาก : วางได้ก็ไร้ทุกข์ โดย : หวงถง)
จุดเริ่มต้นของเรื่อง : ภรรยากับสามี
เช้าวันหนึ่ง.. ภรรยาบอกกับสามีว่า “วันนี้ ฉันจะกลับบ้านไปเยื่ยมแม่จะไปค้างสักคืนหนึ่ง แม่ไม่ค่อยสบายคุณจะขับรถไปส่งฉันหน่อยได้ไหมฝนตกหนักแบบนี้ ไปรถโดยสารไม่สะดวกเลย”
สามีซึ่งหน้าตาบูดบึ้งมาตั้งแต่เช้าไม่ตอบภรรยา… แต่กลับกระชากเสียงถามกลับไปว่า “เมื่อวาน เธอซื้อเสื้อใหม่มาใช่ไหมเธอรับปากฉันแล้วนะว่าจะไม่ใช่เงินฟุ่มเฟือย เรายังต้องผ่อนบ้าน ผ่อนรถ ส่งลูกเรียนค่าใช้จ่ายเยอะแยะ ทำไมไม่ช่วยกันประหยัด!!”
ภรรยาพูดออกมาเสียงเบาๆ อย่างคนรู้สึกผิดว่า “ที่แท้..คุณโกรธฉันเรื่องนี้นี่เอง”
ภรรยาก้มหน้าจัดเสื้อผ้าเงียบๆแล้วบอกสามีว่า “วันนี้ มีรถโดยสารเข้าเมืองแค่เที่ยวเดียวฉันคงต้องรีบไปแล้วหละคุณไม่ต้องไปส่งก็ได้..” แล้วเธอก็ออกบ้านไป โดยสามีไม่สนใจเลยเพราะยังโกรธอยู่มาก
ความรู้สึกถึงการสูญเสีย…!!!
ประมาณครึ่งชั่วโมงผ่านไปสามีได้ยินเสียงเอะอะบนถนนจึงออกไปดู แล้วจึงได้ยินผู้คนตะโกนกันว่าฝนที่ตกหนัก เซาะตลิ่ง จนสะพานเข้าเมืองได้ขาดลง มีรถเมล์คันหนึ่ง ตกลงไปในน้ำด้วย
สามีได้ยินดังนั้น ตกใจมากรีบกระโจนพรวดออกจากบ้านไปทันที เมื่อไปถึงแม่น้ำ รถเมล์ที่ถูกเก็บกู้จากน้ำเหลือเพียงซากเหล็กสัมภาระกระเป๋าต่างๆ ของผู้โดยสารกระจัดกระจาย มีการหามร่างของผู้เสียชีวิตคนแล้วคนเล่าขึ้นมาจากแม่น้ำ
ชายหนุ่มเฝ้ามองหาภรรยาแล้วๆ เล่าๆ ก็ไม่พบ จึงเสียใจเจียนสิ้นสติเฝ้าถามหน่วยกู้ภัยที่ทำงานอยู่ว่า “เห็นภรรยาผมบ้างไหม ๆๆๆ เธอใส่เสื้อสีแดง กางเกงสีดำ”
ทุกคนส่ายหน้า… บอกว่าไม่เห็น เวลาผ่านไปจนเกือบเย็น กู้ภัยจึงหยุดการทำงาน เพราะไม่มีผู้เสียชีวิตที่หาพบแล้ว จึงบอกชายหนุ่มว่า.. “หักห้ามใจเถอะนะ ภรรยาคุณคงโดนน้ำพัดไปไกลแล้ว”
ชายหนุ่มเดินกลับบ้าน เหมือนคนไม่มีวิญญาณร้องไห้ไป คร่ำครวญไปตลอดทาง ในใจของเขา เฝ้าแต่คร่ำครวญว่า “ทำไมๆๆๆ เราไม่ขับรถไปส่งเธอนะ เราไปด่าเธอทำไมว่าใช้เงินฟุ่มเฟือย เสื้อตัวเดียวมันจะราคาเท่าไหร่กัน”
โชคยังเข้าข้าง…!!!
แต่เมื่อกลับถึงบ้าน…. คาดไม่ถึงว่า..ภรรยาของเขากลับยังคงนั่งรออยู่ที่โต๊ะอาหาร มีอาหารอยู่บนโต๊ะในมือเธอ มีเสื้อกันหนาวเก่าตัวหนึ่งซึ่งเธอกำลัง เย็บซ่อมชายเสื้อที่รุ่ยอยู่
“คุณไปไหนมาคะ .. ” ภรรยายังพูดไม่ทันจบ สามีก็ตรงเข้าไปกอดเธอจนแน่น “คุณเป็นอะไร ร้องไห้ทำไมวันนี้ ฉันมัวเอาเสื้อไปคืนที่ร้านเสียเวลาอ้อนวอนให้เขารับคืนไปมาก เลยไปขึ้นรถเมล์ไม่ทัน อากาศจะหนาวแล้ว ฉันเลยรื้อเสื้อเก่ามาซ่อมก็พอใส่ได้อีกหลายปีนะคะ ฉันนี่แย่จริงๆ ของเก่าก็ยังมี ไปซื้อของใหม่มาทำไม”
เรื่องบางเรื่อง.. เราโกรธจนลืมไปว่ามันไม่สำคัญเทียบเท่ากับ “ความสุข” ของเราเลยนะ
เรื่องบางเรื่อง.. ไม่สำคัญเท่ากับ “ความสุข” ของคนที่เรารัก
เรามีเวลาในโลกนี้สุดแสนจำกัด เวลาที่ใช้ร่วมกัน ….ยิ่งจำกัด อะไรที่ไม่สำคัญมากพอ ก็อย่านำมาเป็นอารมณ์มากมายนักเลย
บางครั้งเราจะคลั่ง..กับเรื่องเล็กน้อยไปไย
ศิลปะแห่งการใช้ปัญญา คือความเข้าใจว่า “ควรเครียดกับเรื่องใด และควรผ่อนปรนในเรื่องใด”
อย่าให้คุณต้องสูญเสียคนที่รักคุณไป เพียงเพราะความคิดเพียงชั่วครู่ที่ไร้สติของคุณ มิเช่นนั้น เหตุการ์อาจจะสายเกินแก้
“แพรวด้วยความรู้ พราวด้วยประสบการณ์”