“มะพร้าว” หนึ่งในพืช-ผลไม้มงคลที่อยู่คู่กับวิถีชีวิต วัฒนธรรมและประเพณีของคนไทยและชาวอุษาคเนย์มาอย่างยาวนาน
ซึ่งนอกจะสามารถนำมาทำอาหารได้ทั้งของคาวและของหวานตามตำรับอาหารของไทยแล้ว “น้ำมะพร้าว” ยังจัดเป็นครื่องดื่ม/น้ำผลไม้ที่มีกลิ่นเฉพาะตัวและมีรสชาติที่ดีอีกด้วย
แต่สรรพคุณของมะพร้าวไม่ได้มีดีแค่เพียงเป็นสัญญลักษณ์แห่งวิถีชีวิต วัฒนธรรมประเพณี และไม่ได้มีดีในฐานะของอาหารและน้ำผลไม้เลิศรสเท่านั้น “มะพร้าว” ยังมีกลเม็ดเด็ดพรายอันเป็นปริศนาธรรมซุกซ่อนอยู่ ชวนให้เราอยากเข้าไปค้นหาความหมายกันแล้วล่ะ
พอพูดถึงตรงนี้แล้ว เชื่อเหลือเกินว่า ท่านผู้อ่านคงจะอยากรู้ขึ้นมาตะหงิดๆ ว่า มะพร้าวที่กำลังถูกพูดถึงนี้ มีดีอย่างไรกันแน่ ถ้าอย่างนั้น โปรดอย่าได้รอช้า อ่านต่อกันเลยครับ…
โบราณท่านกล่าวว่า “มะพร้าว เป็นผลไม้ของเหล่าเทพเทวดา” และมีคำกล่าวที่ว่า “ขอให้เป็นคนดีให้ได้เหมือนมะพร้าว เพราะมะพร้าวมีคุณสมบัติเช่นเดียวกับคนดี”
คนเราทุกคนต่างก็อยากได้ดิบได้ดีด้วยกันทั้งนั้น ว่าแต่วันนี้คุณได้ทำดีอะไรบ้างหรือยัง แต่ถ้ายังไม่รู้ว่าทำยังไงถึงจะเรียกว่า “ดี” วันนี้ขอแนะนำให้เราลอกเลียนแบบความดีจากมะพร้าวกันครับ
- มะพร้าว ถึงแม้จะตกร่วงลมมาจากที่สูงหลายสิบเมตรก็ไม่แตก เพราะมะพร้าวเป็นผลไม้ที่มีเปลือกหนาห่อหุ้มเอาไว้อย่างดี ท่านเปรียบเสมือนกับคนดีมีคุณธรรม แม้จะถึงคราวตกต่ำ ตกที่นั่งลำบากก็ไม่ทอดทิ้งความดี ยังตั้งมั่นอยู่ในความดีอยู่เสมอไม่เปลี่ยนแปลง สุดท้าย ด้วยพลานุภาพของคุณงามความดีที่ห่อหุ้มไว้ ทำให้มีคนคอยให้การช่วยเหลือสนับสนุนอยู่เสมอ ก็ด้วยความดีของตน เข้าทำนองที่ว่า “คนดี ตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้” และ “คนดี อยู่ที่ไหนก็ได้ ใครก็ต้องการ ที่ไหนก็พร้อมเสมอที่จะอ้าแขนรอรับคนดี” เพราะยังไงคนดีก็คงเป็นที่ต้องการของทุกคนและทุกส้งคมอยู่เสมอ
- มะพร้าว มีน้ำได้ด้วยตัวของมันเอง จะสังเกตเห็นได้ว่า มะพร้าวทุกลูกนั้นมีน้ำมะพร้าวอยู่ภายใน และเป็นน้ำที่มีความหอม หวาน บริสุทธิ์ เพราะมีการผ่านคัดกรองโดยวิธีการทางพีชนิยมของมะพร้าวเองโดยเฉพาะ ไม่มีใครต้องคอยมาตักน้ำเติมลงไปในลูกมะพร้าว ถึงอย่างงั้นลูกมะพร้าวก็ยังมีน้ำเต็มอยู่เสมอ เปรียบเหมือนคนดี คนผู้ใฝ่ในคุณงามความดี คนที่รักดี คอยแสวงหาความดี เกิดความสำนึกตระหนักที่จะทำความดีด้วยมโนธรรมสำนึกของตนเอง ที่ผ่านการสั่งสมอบรมมาจนเกิดเป็นความชำนาญการในการทำความดี อีกทั้งยังคอยหมั่นเรียนรู้พัฒนาตนเองอยู่เสมอ คอยคัดกรองเอาเฉพาะแต่คำชี้นำในทางที่ดีๆ มาปรับประยุกต์ใช้ในการพัฒนาชีวิตของตนเองอยู่เสมอ สั่งสม อบรม พัฒนา เพิ่มพูนความรู้ของตนเองอยู่เสมอ เช่นเดียวกันกับลูกมะพร้าวที่คอยเก็บสะสมน้ำทีละน้อยจนมีน้ำเต็มทั้งลูกฉะนั้น
- มะพร้าว แม้ร่วงหล่นลงในน้ำก็ไม่จมน้ำแต่อย่างใด ถึงลูกมะพร้าวจะมีน้ำหนักมากพอสมควรก็ตาม แต่ก็ไม่เคยปรากฏมีหลักฐานยืนยันมาก่อนหน้านี้เลยสักครั้งว่ามีลูกมะพร้าวลูกใดจมน้ำ ลูกมะพร้าวจะลอยเหนือผิวน้ำเสมอ เปรียบเหมือนคนดี แม้ต้องประสบความผิดหวังพลาดพลั้งไปบ้าง ก็สามารถประคับประคองชีวิตให้ดำเนินไปได้ ตั้งหลักได้ แม้จะล้มลุกคลุกคลานบ่อยครั้งแค่ไหนก็ตาม คนดีก็จะไม่มีวันย่อท้อเด็ดขาด จะล้มกี่ครั้ง ก็ลุกขึ้นมายืนได้ทุกครั้ง จนกระทั่งสามารถยืนหยัดอยู่ได้อย่างงดงาม เพราะคนดีจะไม่ยอมเสียเวลาจมอยู่กับความผิดพลาดนานๆ แต่จะเอาความผิดพลาดมาเป็นบทเรียน เพื่อเรียนรู้หาวิธีการก้าวผ่านช่วงเวลาที่ย่ำแย่เหล่านั้นไปให้ได้ และจะไม่มีวันกลับมาผิดพลาดซ้ำซากในเรื่องเดิมอีกเป็นครั้งที่สอง มีเป้าหมายที่ชัดเจนในการใช้ชีวิต และนำพาตนเองและเพื่อนพ้องบริวารไปสู่ความสำเร็จในสังคมที่ดียิ่งๆ ขึ้นไป
- มะพร้าว แม้จะจมลงในเปือกตมหรือดินโคนที่สกปรกโสโครก ก็สามารถเจริญเติบโตงอกงามได้ เปรียบเหมือนกับคนดี แม้ว่าจะเกิดในครอบครัวที่ไม่ดี สังคมที่ไม่ดี สภาพแวดล้อมที่ไม่ดีก็ตาม ถึงแม้ว่าจะต้องผ่านวันเวลาแห่งความยากลำบากอย่างไรก็ตาม ก็ยังคงต่อสู้ที่จะเรียนรู้และพัฒนาตนเองให้สามารถเติบโต มีอาชีพตำแหน่งหน้าที่การงานที่ดี ยกฐานะทางสังคมของตนให้ทัดเทียมหรือเหนือกว่าคนอื่นได้ มีความเจริญก้าวหน้าในทุกๆ ด้าน เป็นคนดีของสังคม เป็นบุคคลต้นแบบที่สามารถส่งต่อความดีและสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนอื่นๆ ได้
เป็นอย่างไรกันบ้าง พออ่านมาถึงข้อที่ 4 ซึ่งเป็นข้อสุดท้ายของบทความนี้แล้ว เชื่อเหลือเกินว่า “มะพร้าว” ธรรมดาๆ ที่เรารู้จักและคุ้นชินเป็นอย่างดีในฐานะของพืชพรรณประจำถิ่น ในฐานะของอาหารและน้ำผลไม้คู่คนไทยและชาวอุษาคเนย์มาอย่างช้านานจนกระทั่งถึงปัจจุบัน
และไม่น่าเชื่อว่า จะมีปริศนาธรรมสอนให้เราได้ถือเอาเป็นแบบอย่างสำหรับนำไปปรับประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิต เป็นเข็มทิศที่คอยชี้นำทางนำเราก้าวไปสู่ความสำเร็จในฐานะของความเป็นคนดีที่สังคมให้การยอมรับ และสร้างแรงบันดาลใจ รวมถึงการส่งต่อความสุขให้กับคนอื่นๆ จากรุ่นสู่รุ่น จากสังคมหนึ่งไปสู่อีกสังคมหนึ่งอย่างไม่มีวันสิ้นสุด
แพรว…ด้วยความรู้ – พราว…ด้วยประสบการณ์”