pin up1 winaviator mostbetpinup casino1 winmostbet kzmosbet casinoaviatorlucky jet1 winpin up casino india1win slotlucky jet casinopinup az4r betmosbet indiamosbet aviatormostbet casino1win kz1 win4rabet indiapin-up kzmosbetmosbet1 win1win1win aviatorpin upparimatchlucky jet4rabetмостбет1win loginpin up 777mostbet1 вин авиаторpin uplucky jet1 winpin up4rabetpinupmosbet1 winmostbet azluckygetmostbetmosbetmostbet casino1wınparimatch

กว่าจะได้รักกัน…

การที่คนสองคนจะรักกันและตกลงใช้ชีวิตคู่ร่วมกันนั้น ต้องขอบอกเลยว่า มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยจริงๆ

คนสองคนจะรักกันได้ ก็ด้วยเหตุ 1 อย่าง คือ

1) เป็นเรื่องของบุพเพสันนิวาส หรือ ปุพเพกตปุญญตา การได้ทำบุญร่วมชาติ เคยตักบาตรร่วมขัน เคยปลูกต้นไม้ร่วมต้น เคยสร้างกุศลร่วมกัน หรือเคยแต่งานอยู่กินกันฉันสามีภรรยามาตั้งแต่อดีตชาติ ส่งผลให้ได้มาพบประสบเจอกันในชาตินี้ และความรักประเภทนี้สังเกตไม่ยากเลย เพราะเมื่อสองคนได้เจอกันปุ๊บ ก็รู้สึกรัก รู้สึกชอบพอ รู้สึกปิ๊งรักขึ้นมาในทันที เรียกว่าเป็นรักแรกพบก็ได้ คือเจอหน้ากันปุ๊บ ยังไม่ได้พูดพร่ำทำเพลงหรือมีพิธีรีตองอะไร ก็รักกันซะแล้ว แบบนี้เรียกว่า “บุพเพสันนิวาส”

2) เป็นเรื่องการสร้างรักใหม่ในชาติปัจจุบัน คือกว่าจะรักกันได้ ไม่ใช่เจอกันปุ๊บจะรักกับปั๊บ สปาร์คติดง่ายแบบในอย่างแรก คือ เมื่อเจอกันในตอนแรกๆ ก็อาจจะแค่มองว่าเป็นเพียงคนรู้จัก เป็นเพียงเพื่อนร่วมรุ่น เป็นเพียงเพื่อนร่วมงาน เป็นพี่ เป็นน้อง หรือเป็นเจ้านาย เป็นลูกน้องกันก็เท่านั้น แต่พอได้รู้จักนิสัยใจคอกันมากขึ้นๆ ได้เอื้อเฟื้อเกื้อกูลอิงอาศัยกันมากขึ้น ได้ทำงานร่วมกันมากขึ้นๆ ก็ทำให้รู้สึกสนใจขึ้นมาเป็นพิเศษ และเมื่อเห็นอุปนิสัยที่ดี เห็นความดีในตัวของคนคนนั้นมากเข้าๆ ก็ก่อเกิดเป็นความรักได้เช่นเดียวกัน

ความรักของคนสองคนก่อเกิดขึ้นมาได้ด้วยเหตุ 2 อย่าง ดังที่กล่าวแล้วข้างต้นนั้น แต่แค่ความรักก็คงยังไม่เพียงพอ ความรักของคนสองคนมักกระตุ้นความปรารถนาอย่างแรงกล้าขึ้นไปอีก โดยการต้องการครองคู่ดูแลกันไปจนแก่เฒ่า ท่ามกลางสักขีพยานความรักของคนสองคน ซึ่งหมายถึงญาติผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่าย เพื่อนๆ และญาติพี่น้อง ผ่านกรรมวิธีที่สร้างความเชื่อมั่นให้กับความรักของคนสองคนก็คือ “พิธีแต่งงาน” หรือ “งานพิธีมงคลสมรส”

แต่การที่คนสองคนจะตกลงปลงใจแต่งงานกันได้นั้น ต้องมีความพร้อมของทั้งสองฝ่ายในระดับ 100 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว ซึ่งนั่นหมายความว่า หนุ่มสาวหรือคนรักกันทั้งสองคนนั้น จะต้องผ่านปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ด้วยกันมาอย่างโชกโชนกว่าจะถึงวันที่เราเรียกกันด้วยคำง่ายๆ ว่า “ความพร้อม”

กว่าจะรักกันได้ คู่รักคู่หนึ่ง จะต้องผ่านเรื่องราวต่างๆ ซึ่งเปรียบเสมือนกับปาฏิหาริย์ และบทดสอบต่างๆ ให้ต้องเคียงบ่าเคียงไหล่กันต่อสู้ฟันฝ่าไปให้ได้ นั่นก็คือ เริ่มตั้งแต่

1) กว่าคนรักทั้ง 2 คน จะได้เจอกัน ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ในโลกนี้มีคนอยู่มากมายหลายร้อยหลายพันคน แต่คนที่จะมาเป็นคู่กันกับเรา ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันกับเราไปจนตายนั้น จะมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น ฉะนั้น การที่คู่รักสองคนที่อยู่กันคนละที่ คนละแห่ง คนละฐานะ คนละวัฒนธรรม คนละวิถีชีวิต คนละสภาพแวดล้อม จะได้มาเจอะเจอกันนั้นจึงไม่ใช่เรื่องง่าย แต่การที่คู่รักสักคู่หนึ่งได้มาเจอกันได้นั้น จึงเป็นเรื่องน่าอัศจรรย์ยิ่งนัก

2) กว่าคนรักทั้ง 2 คน จะได้รักกัน ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายอีกเช่นกัน เพราะว่าคนเรามีโอกาสได้ประสบพบเจอผู้คนมากหน้าหลายตา แต่จะมีสักกี่คนที่เรารู้สึกดีด้วย และในบรรดาคนที่เรารู้สึกดีด้วย จะมีสักกี่คนที่เรารู้สึกชอบและถูกชะตา ในบรรดาบุคคลที่เรารู้สึกชอบและถูกชะตาเหล่านั้น จะมีสักกี่คนที่เราจะรู้สึกรักในตัวตนของเขา การที่คนสองคนได้มาเจอกันแล้วรักกันได้นั้น จึงเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์

3) กว่าที่คนรักทั้ง 2 คน จะเข้าใจกัน ต้องบอกว่า คนสองคนแค่มาเจอกัน ได้รู้สึกรักกัน แค่นี้คงยังไม่ใช่คำตอบทั้งหมดของนิยามคำว่า “คู่ครอง” การที่จะคนสองคนจะตกลงใช้ชีวิตคู่ร่วมกันได้นั้น ต้องประกอบไปด้วย “ความเข้าใจกัน” เพราะเพียงแค่รักกันเท่านี้ ก็ไม่ได้หมายความว่าชีวิตคู่จะไปได้ตลอดรอดฝั่งได้ การใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน จึงต้องอาศัยความเข้าใจกัน ยอมรับข้อดีและข้อด้อยของกันและกันได้ เมื่อคนรักสองคนสามารถทำความเข้าใจกันได้เป็นอย่างดีแล้ว จึงถือเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์ที่สุดอีกเรื่องหนึ่ง

4) กว่าจะต่อสู้ฝ่าฟันกับปัญหาอุปสรรคไปด้วยกันได้ ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายอีกเช่นกัน เพราะการได้เจอกัน ได้รักกัน ได้เข้าใจกันแล้ว ก็ไม่ใช่บทสรุปทั้งหมดของเรื่องราวเส้นทางความรักของคนสองคนแต่อย่างใด เพราะนี่เป็นเพียงแค่เรื่องระหว่างคนสองคนเท่านั้น จริงอยู่ เรื่องราวความรักควรที่จะเป็นเรื่องของคนเพียงสองคนเท่านั้น ไม่น่าจะไปเกี่ยวข้องกับบุคคลที่ 1 2 3 4 5 หรือคนอื่นๆ เลยแม้แต่น้อย

แต่เชื่อหรือไม่ว่า การคิดอย่างนี้ เป็นความคิดที่ผิดอย่างมหันต์ สำหรับการใช้ชีวิตอยู๋ร่วมในสังคมมนุษย์ เพราะมีความจำเป็นเหลือเกินที่จะต้องให้คนอื่นๆ รับรู้ รับทราบ และให้การยอมรับความรักระหว่างคนสองคนด้วย อย่างน้อยที่สุดก็คนที่เกี่ยวข้องกับคนรักทั้ง 2 ฝ่าย อันได้แก่พ่อแม่ญาติผู้ใหญ่ของทั้งคู่ ที่จะต้องให้การยอมรับ ยินยอมพร้อมใจให้คนสองคนได้ใช้ชีวิตคู่ร่วมกันอย่างถูกต้องตามกฎหมายและวัฒนธรรมประเพณี การที่คนทั้งคู่จะพิสูจน์ตัวเองให้กับพ่อแม่ญาติพี่น้องทั้งสองฝ่ายยอมรับได้ จึงถือว่าเป็นปัญหาอุปสรรคสำคัญที่คู่รักทุกคู่ต้องช่วยกันฟันฝ่าไปให้จงได้

5) กว่าจะเก็บเงินแต่งงานได้ ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเงินทองเป็นของหายาก ใครๆ ก็รู้ก็ทราบในข้อนี้เป็นอย่างดี สมัยก่อนปัญหาข้อนี้อาจเป็นข้อหนักอกหนักใจของฝ่ายชาย ที่จะทำอย่างไรเพื่อหาสินสอดทองหมั้นมาแต่งงานกับฝ่ายหญิงได้ ให้สมกับฐานะ ชื่อเสียงและเกียรติยศของฝ่ายหญิง แต่ในปัจจุบันนี้ เชื่อหรือไม่ว่า ทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิงต้องร่วมแรงร่วมใจกันเก็บหอมรอมริบเงินทองไว้เพื่องานแต่งงานของทั้งคู่โดยเฉพาะ ซึ่งแน่นอนว่าฝ่ายหญิงเอง ก็ต้องมีส่วนสำคัญในการช่วยหาสินสอดทองหมั้นมาร่วมด้วยช่วยฝ่ายชายเช่นกัน และเมื่อผ่านพิธีงานแต่งงานของทั้งคู่ไปแล้ว ส่วนใหญ่ญาติผู้ใหญ่ฝ่ายหญิงก็ทราบถึงเหตุผลข้อนี้เป็นอย่างดี จึงมักมอบสินสอดในงานแต่งไว้ให้บ่าวสาวไว้เป็นทุนสร้างหลักฐานฐานะทางครอบครัวต่อไป

6) กว่าจะตกลงแต่งงานกันได้ ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะมีหลายๆ คู่ ช่วยกันเก็บเงินเก็บทองเตรียมพร้อมสำหรับงานแต่งได้แล้ว แต่ก็ต้องมีเหตุให้ต้องยกเลิก หรือเลิกร้างกันไปก่อนถึงงาานแต่งก็มีให้เห็นถมเถไป

ดังนั้น การที่จะประคับประคองความรัก ความเข้าใจ และการร่วมกันฟันฝ่าหรือหลีกเลี่ยงปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ที่จะเข้ามาทำลายความตั้งใจที่จะมีงานแต่งของบ่าวสาวคู่หนึ่งขึ้นมา จึงเป็นเรื่องที่ระวังได้ยากเหมือนกัน ฉะนั้น คู่บ่าวสาวตั้งมีจิตใจที่มั่นคง เด็ดเดี่ยวในความรัก และเชื่อมั่นเชื่อใจกันทั้งสองฝ่าย ประคับประคองให้ความรักของทั้งคู่เดินทางมาจนถึงวันสวมด้ายมงคลแฝด-หลั่งน้ำสังข์ในวันมงคลสมรสให้ได้

7) กว่าจะได้ฤกษ์ดี กว่าจะหาวันมงคลเพื่อกำหนดวันแต่งงานก็ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะคนไทยเราถือว่า การแต่งงานกับคนที่เรารัก ไม่ได้มีกันได้บ่อยๆ หนึ่งชีวิตของคนคนหนึ่ง อาจมีได้แค่ครั้งเดียวในชีวิต

ดังนั้น จึงต้องเลือกเฟ้นหาวันที่เป็นวันมงคลหรือหาฤกษ์งามยามดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ การจัดพิธีทุกขั้นตอน ทุกกระบวนการก็ต้องให้มีความพร้อมสมบูรณ์และยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้ เพราะถือว่าทุกขั้นตอนของพิธีงานแต่งงานนั้น ล้วนแล้วแต่จะส่งผลหรือมีผลโดยตรงต่อการครองคู่ชีวิตรักทั้งสิ้น จึงต้องพิถีพิถัน เลือกแล้วเลือกเล่าจนคิดว่าดีที่สุด จึงตกลงใจเลือกวันมงคลและฤกษ์งามยามดีกำหนดให้เป็นวันแต่งงานของทั้งคู่

เห็นไหมละครับ ต้องบอกว่า กว่าจะรักกัน กว่าจะได้ครองคู่กัน ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยจริงๆ สำหรับคนรักคู่หนึ่ง อันนี้ยังไม่ได้พูดถึงการที่จะประคับประคองความรักของทั้งคู่ให้คงความหวานฉ่ำไม่จืดจางหลังจากผ่านพิธีมงคลสมรสไปแล้วนะครับ ว่าจะมีความยากยิ่งและต้องอาศัยคุณธรรมและศิลปะเชิงชั้นของการใช้ชีวิตคู่อยู่ร่วมกันให้ตลอดรอดฝั่งได้อย่างไร แค่นึกถึงก็รู้สึกเสียวสันหลังกันแล้วใช่ไหมครับ

แต่ยังไงเสียความรักก็ยังคงเป็นสิ่งสวยงาม และน่าปรารถนาเสมอ เห็นคนได้รักกัน ยังดีกว่าเห็นคนเกลียดกันนะครับ สำหรับบทความนี้ก็ขอบ๊าย บาย ลาไปก่อนครับ ขออนุญาตฝากติดตามอ่านบทความดีๆ อย่างนี้ เพื่อเป็นกำลังใจให้กับผู้เขียนต่อไปด้วยนะครับ ขอขอบคุณและสวัสดีครับ…..

ใส่ความเห็น