pin up1 winaviator mostbetpinup casino1 winmostbet kzmosbet casinoaviatorlucky jet1 winpin up casino india1win slotlucky jet casinopinup az4r betmosbet indiamosbet aviatormostbet casino1win kz1 win4rabet indiapin-up kzmosbetmosbet1 win1win1win aviatorpin upparimatchlucky jet4rabetмостбет1win loginpin up 777mostbet1 вин авиаторpin uplucky jet1 winpin up4rabetpinupmosbet1 winmostbet azluckygetmostbetmosbetmostbet casino1wınparimatch

“คนใฝ่ดี”

“อยู่ในที่ ที่ดี นั้นดีแน่ อยู่ในที่ ที่แย่ ก็ดีได้

อยู่ที่ดี แล้วแย่ มีถมไป อยู่ที่ไหน ก็ดีได้ ถ้าใฝ่ดี….”

คนเราเลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือกที่จะเป็นได้”

คำพูดที่กล่าวข้างต้นนี้ สะท้อนให้เห็นว่า “คนเรา” หาก “เลือกได้” อย่างที่ใจของเราต้องการและปรารถนา ก็คงไม่มีใครเลือกความ “ยากจน”, “ตกต่ำ”, “ไร้เกียรติ”, “ไร้ค่า” และ“ด้อยราคา” ในสายตาของผู้คนในสังคม คนเราต่างก็อยาก “ร่ำรวย”, “มีเกียรติ”, “ได้รับเกียรติ”, “มีคุณค่า”, “มีตัวตน”, “มีบทบาทสำคัญ”และ “ได้รับการยกย่องสรรเสริญ” จากผู้คนในสังคมด้วยกันทั้งนั้น

แต่….. แต่เพราะในชีวิตจริงของคนเรานั้น ไม่สามารถเลือกเกิด หรือเลือกที่จะมีต้นทุนในชีวิตอย่างเท่าเทียมเสมอเหมือนกันได้ นั่นก็เป็นเพราะว่า คนเรามีต้นทุนชีวิตไม่เหมือนกัน ไม่เท่ากัน ไม่เสมอภาคกัน เพราะแต่ละคนเคยสะสมบุญกุศลและสร้างกรรมดี-กรรมชั่วแตกต่างกันไป ก็จะส่งผลมาถึงในปัจจุบันชาติ ให้เกิดมามีความประณีตและทรามแตกต่างกันไป ซึ่งสามารถจำแนกเป็นรายด้าน ดังนี้

ด้านรูปร่าง หน้าตา ผิวพรรณ สัณฐาน

จะกล่าวถึงด้านรูปร่าง หน้าตา ผิวพรรณวรรณะ อวัยวะต่างๆ ของคนเราก็แตกต่างกันไป

บางคนรูปร่าง หน้าตา ผิวพรรณงดงาม หล่อ สวย ที่เป็นเช่นนี้เพราะกุศลกรรมคือกรรมดีของเขาที่ได้สั่งสมอบรมมาแต่ปางก่อนบางคนก็เกิดมามีรูปร่าง หน้าตา ผิวพรรณ พอประมาณ คือพอดูได้ จะว่าหล่อ สวยมากไปก็ไม่ใช่ จะว่าขี้เหร่มากไปก็ไม่ใช่ เป็นคนรูปร่าง หน้าตา และผิวพรรณาแบบกลางๆ ภาษาที่คนไทยคุ้นเคยใช้กันมาจนได้ยินคุ้นหูก็คือ “พอไปวัดไปวาได้” หรือ “พอเข้าวัดเข้าวาได้”

บางคนเกิดมารูปร่างพิกลพิการ อวัยวะไม่สมประกอบ ผิดรูป หน้าตาไม่ดี ผิวพรรณหยาบกระด้างมีตำหนิ แบบนี้เรียกว่าเกิดมามีกรรม ซึ่งกรรมในที่นี้หมายถึง “อกุศลกรรม” หรือ “กรรมชั่ว” ที่ได้สั่งสมอบรมมาแต่ปางก่อน ทำให้รูปร่างหน้าตาผิวพรรณสัณฐานของคนเราแตกต่างกันไป

ด้านฐานะทรัพย์สินเงินทอง

เมื่อจะกล่าวถึงด้านฐานะทรัพย์สินเงินทอง บางคนมีบุญญาบารมีสั่งสมมาตั้งแต่อดีตชาติ อันเนื่องด้วยความมีจิตใจ อัธยาศัยกว้างใหญ่แผ่ไพศาล ให้ทานเป็นอยู่เป็นนิตย์มิได้ขาด ส่งผลให้เกิดมาบนกองเงินกองทอง คาบช้อนเงินช้อนทองออกมา เกิดอยู่ในตระกูลที่ร่ำรวยมีทรัพย์สินเงินทองมากมายให้เสวยสุข

บางคนเกิดมาแล้วก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไรมาก แต่ก็พอมีกินมีใช้ไม่ขาดมือ เกิดในตระกูลของผู้มีฐานะปานกลาง พออยู่พอกิน เพราะสร้างกุศลมาพอปานกลาง ไม่มากไม่น้อยเกินไป

บางคนเกิดมาในตระกูลคนยากจน เป็นวณิพก ยาจกเข็ญใจ หาเช้ากินค่ำ ไม่มีทรัพย์สินเงินทองใดๆ มีชีวิตอยู่สักแต่ว่าพอมีอาหารประทังชีวิตไปวันๆ ก็กระทั่งยาก อย่างนี้เพราะเคยสั่งสมมัจฉริยธรรมคือความตระหนี่ถี่เหนียว ไม่ค่อยยินดีในการบริจาคทรัพย์ทำบุญสุนทาน กินบุญเก่าเสียหมด ก็ไม่เหลือบุญกุศลใดๆ มาช่วยเหลือตนในยามยากด้านหน้าที่การงาน

หากจะกล่าวถึงคนที่ทำบุญกุศลมามาก ยศตำแหน่งหน้าที่การงานย่อมเจริญรุ่งเรือง ด้วยเคยเป็นผู้ที่ประพฤติอ่อนน้อมถ่อมตน ไม่ยกตนข่มท่าน ไม่ละเมิดสิทธิของผู้อื่น เห็นคุณค่าของความเป็นมนุษย์เสมอเหมือนเท่าเทียมกัน ด้วยบุญกุศลหรือจริยาสัมมาปฏิบัติอันนี้ จึงส่งผลให้ชาตินี้เจริญยิ่งด้วยยศถาบรรดาศักดิ์ ตำแหน่งหน้าที่การงานที่เจริญรุ่งเรืองรุดหน้ายิ่งๆ ขึ้นไป

บางคนประพฤติอ่อนน้อมถ่อมตน เคารพและให้เกียรติผู้อื่น ในระดับกลางๆ ไม่ได้พิเศษอะไรมาก เคารพนับถืออ่อนน้อมถ่อมตนไปตามธรรมเนียมปฏิบัติไม่ได้ลึกซึ้งซึมซาบออกมาจากใจจริง อย่างนี้ก็จะส่งผลให้ยศตำแหน่ง หน้าที่การงาน เจริญรุ่งเรืองแบบค่อยเป็นค่อยๆ หรือเป็นไปแบบกลางๆ ไม่โดดเด่นเป็นพิเศษอะไรมาก

แต่บางคน ไม่เคยมีความอ่อนน้อมถ่อมตนกับผู้ใด ชอบทำนิสัยยกตนข่มท่าน กร่าง ชอบละเมิดสิทธิของผู้อื่น เห็นคุณค่าของความเป็นมนุษย์แบบไม่ทัดเทียมกัน ด้วยผลแห่งกรรมอันนั้น ทำให้บุคคลประเภทนี้ ไม่ค่อยเจริญด้วยยศตำแหน่งหน้าที่การงานเท่าที่ควร หรือเมื่อได้รับแล้วมักจะเสื่อมไป ถูกปลด ถูกลงโทษเพราะสาเหตุแห่งยศและหน้าที่การงานร่ำไป

ด้านความรัก

เมื่อกล่าวถึงด้านความรัก ในพระพุทธศาสนาท่านกล่าวว่า คนเราจะรักกัน ชอบพอกัน ตัดสินใจเป็นคู่ครองกันได้ ก็เพราะเหตุ ๒ ประการคือ

๑) ด้วยการเคยทำบุญร่วมกันมาก่อน ดังคำที่นักปราชญ์ท่านประพันธ์ไว้ได้อย่างสอดคล้องต้องกันว่า

“เคยทำบุญร่วมชาติ ตักบาตรร่วมขัน ปลูกต้นไม่ร่วมต้น สร้างกุศลร่วมกัน”

คือ เคยเป็นคู่ครองกันมาแต่ชาติปางก่อน เมื่อเกิดมาในชาตินี้ อาศัยอำนาจวาสนาบารมีของการเคยร่วมครองรักกันในอดีต ทำให้หลงรักกันตั้งแต่แรกพบ และมีเหตุให้ได้อยู่ร่วมรักกันในชาตินี้อีก

๒) ด้วยการช่วยเหลืออนุเคราะห์สงเคราะห์กันในชาติปัจจุบัน ความรักประเภทนี้ มิได้เกิดขึ้นด้วยเหตุแห่งการสร้างบุญร่วมกันมาแต่ชาติปางก่อนแต่อย่างใด แต่เป็นความรักที่ก่อร่างสร้างตัว ก่อเกิดขึ้นมาในชาติปัจจุบัน ด้วยความอนุเคราะห์สงเคราะห์ช่วยเหลือกัน ทำให้เกิดความเห็นอกเห็นใจกัน สงสารกัน ค่อยๆ พัฒนาเป็นความรักและความผูกพันระหว่างกัน

คู่รักประเภทนี้ แรกๆ ก็จะไม่ค่อยจะถูกชะตากัน หรือไม่ได้สนใจกันเป็นพิเศษอะไร แต่อาศัยเวลาที่ได้อยู่ศึกษากันไป ก็เลยทำให้เกิดความรัก ทำให้นึกถึงเพลง “คนมีเสน่ห์” ของศิลปินที่ชื่อว่า “ป้าง นครินทร์ กิ่งศักดิ์” ที่มีเนื้อหาท่อนฮุกตอนหนึ่งที่ว่า

“ดูรวมๆ แล้วมีเสน่ห์เหลือเกิน….”

ด้านเพื่อนพ้องบริวาร

เมื่อกล่าวถึงคนมีบุญ ก็มักจะเห็นว่ามีเพื่อนพ้อง เครือข่าย ลูกน้อง ข้าทาส บริวาร คอยห้อมล้อมให้ได้พึ่งพาอาศัยและคอยอาสาสนองงานให้อยู่เสมอๆ

ต้องยอมรับว่าคนประเภทนี้ เขาสร้างบุญกุศลอันเนื่องด้วยบริวารสมบัติมามาก ทำบุญอย่างไร ?

คนประเภทนี้ ทุกครั้งที่ทำบุญ มักจะชักชวนให้คนอื่น ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนพ้องหรือบริวารร่วมทำบุญด้วยเสมอ คือไม่เพียงแต่ทำบุญด้วยตนเอง ยังชักชวนคนอื่นร่วมบุญกุศลด้วยทุกๆ ครั้ง กอปรกับมีอัธยาศัยใจดี ไม่ถือตัว เข้ากับคนได้ง่าย จริงใจ อาสาช่วยเหลือ และใส่ใจผู้อื่นอยู่ตลอดเวลา ก็เลยส่งผลให้เกิดมาในชาตินี้ มีเพื่อนฝูง เครือข่าย ลูกน้อง บริวารห้อมล้อมช่วยเหลืออย่างมากมาย

ในทางตรงกันข้าง ผู้ที่ทำบุญเพียงลำพังตนเอง ไม่เคย หรือไม่บ่อยครั้งนักที่จะชักชวนคนอื่นร่วมทำบุญด้วย อย่างนี้ก็จะส่งผลให้มีเพื่อนพ้องบริวารน้อย หรือไม่มีเลย ประกอบกับอัธยาศัยที่ถือตัว มีทิฏฐิมานะมาก เข้ากับคนได้ยาก ไม่เคยช่วยเหลือใคร ไม่มีความจริงใจกับใคร ไม่เคยใส่ใจช่วยเหลือคนอื่น จึงส่งผลให้คนประเภทนี้ ไม่มีเพื่อนพ้องลูกน้องบริวาร หรือหากจะมีแต่ก็ค่อนข้างจะน้อยเสียเต็มประดา

ที่กล่าวมาทั้งหมดในข้างต้นนั้น ในทางพระพุทธศาสนาถือว่าเป็นสิ่งที่ส่งผลโดยตรงกับปัจจุบันชาตินี้ ซึ่งเราไม่สามารถเข้าไปแก้ไข เปลี่ยนแปลงอะไรได้ เพราะเป็นเรื่องที่ผ่านมาแล้ว เป็นเรื่องอดีตที่ยากจะแก้ไข จึงเป็นที่มาของคำว่า

คนเราเลือกเกิดไม่ได้”

เมื่อเกิดมาแล้ว จะเป็นอย่างไร ก็ต้องยอมรับความเป็นจริง แต่….

แต่เลือกที่จะเป็นได้”

คำๆ นี้ บ่งให้เรามีกำลังใจขึ้นมาได้อีกไม่น้อย ถึงแม้ว่าเกิดมาแล้ว ต้นทุนชีวิตของคนเราจะมีได้ไม่เท่ากัน ก็ไม่ควรตีโพยตีพาย คร่ำครวญ หรือตีอกชกพื้น น้อยใจในโชคชะตาที่ด้อยกว่าคนอื่นเขา หรือพาลให้หมดกำลังใจในการต่อสู้เพื่อพัฒนาชีวิตให้ดีกว่าวันนี้

แม้ชีวิตจะเลือกเกิดไม่ได้ แต่ก็ไม่มีใครสามารถจะปิดกั้นไม่ให้เราทำความดี และพัฒนาชีวิตให้มีคุณภาพที่ดีและเพิ่มต้นทุนชีวิตให้ดียิ่งขึ้นได้ เพียงแต่ตัวเราเองจะเลือกสู้ เลือกทำหรือไม่ก็เท่านั้น

ที่ผ่านมา มีหลายต่อหลายชีวิตที่อดทน มุ่งมั่น ต่อสู้ชีวิตด้วยความขยันหมั่นเพียร ไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตาหรือกรรมที่ไม่ดีในอดีต โดยการสร้างเหตุที่ดีในปัจจุบันให้ดียิ่งขึ้น

เมื่อมีฐานะยากจนก็อดทน ขยันหมั่นเพียร หนักเอาเบาสู้ ขยันเก็บออมสะสม คบคนดีเป็นมิตรเพื่อส่งเสริมชักชวนกันทำมาหากิน และรู้จักคุณค่าของเงินทองทรัพย์สินที่หามาได้ รู้จักเลือกใช้จ่ายทรัพย์อย่างอดออมและเกิดประโยชน์สูงสุด ก็ทำให้สร้างหลักฐานชีวิต สร้างฐานะขึ้นมาได้

บางคนมีการศึกษาน้อย ด้อยโอกาสเข้ารับการศึกษา ก็ไม่ทอดธุระ พยายามขวนขวายแสวงหาหนทางเพื่อจะให้ได้เข้ารับการศึกษาเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต พัฒนาความคิดและสติปัญญาของตนให้เท่าทันคนอื่นและเท่าทันโลก อดทนพยายามทำงานในหน้าที่ และงานที่ได้รับมอบหมายอย่างเต็มกำลังความสามารถ รวมถึงการมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับผู้บังคับบัญชา เพื่อนร่วมกัน และผู้ใต้บังคับบัญชารวมถึงบุคคลอื่นๆ ก็จะส่งผลให้มีผลงานและมีเสน่ห์เข้าตาผู้บังคับบัญชา เพื่อนร่วมงานและคนอื่นๆ ส่งผลให้ได้รับความไว้วางใจให้มียศและตำแหน่งงานที่สูงยิ่งๆ ขึ้นไปได้

ผู้ที่อาภัพในความรัก ก็ต้องพยายามทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด ทำตนเองให้มีคุณค่า ให้มีอัธยาศัยที่ดี ปรับปรุงลักษณะนิสัยของตนเองให้เข้ากับคนอื่นๆ สร้างเสน่ห์ให้เกิดมีขึ้นในตนเอง และหมั่นสร้างหลักฐานความมั่นคงให้เกิดขึ้นในชีวิต

ทำได้อย่างนี้แล้ว ย่อมมีผู้ที่สนใจเลือกมาเป็นคู่ชีวิตของเราอย่างแน่แท้

ไม่สำคัญว่าอดีตของเราจะเป็นอย่างไร ไม่ต้องพะวงถึงอนาคต เพียงเลือกทำปัจจุบันให้ดีที่สุด เพราะในปัจจุบันขณะ หมายถึง “ตอนนี้”, “ที่นี่”, “เดี๋ยวนี้” เราเลือกที่จะทำ เลือกที่จะเป็นได้ ขึ้นอยู่กับจิตใจของเราว่าจะ “มีความกล้าหาญ”, “อดทน”, “ต่อสู้” และ “แข็งแกร่ง” สักแค่ไหน เพียงใด

คนเราจะดีจะชั่วอย่างไร ไม่ได้ขึ้นอยู่กับสถานที่เกิด ไม่ได้ขึ้นอยู่กับต้นทุนของชีวิต หากแต่ขึ้นอยู่กับ “ความใฝ่ดี” ของตัวเราเองเพียงอย่างเดียวเท่านั้น สมกับคำคมนักปราชญ์ชาวจีนอันลือลั่นที่ว่า

ลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะตน”

เพียงแค่ใจสู้อย่างเด็ดเดี่ยว จริงจังและไม่ย่อท้อแล้ว อะไร ก็ไม่สามารถจะห้ามหรือฉุดรั้งเราได้ ขอเป็นกำลังใจให้กับนักสู้ชีวิต “คน…ใฝ่ดี” ทุกๆ ท่านครับ…

ใส่ความเห็น