pin up1 winaviator mostbetpinup casino1 winmostbet kzmosbet casinoaviatorlucky jet1 winpin up casino india1win slotlucky jet casinopinup az4r betmosbet indiamosbet aviatormostbet casino1win kz1 win4rabet indiapin-up kzmosbetmosbet1 win1win1win aviatorpin upparimatchlucky jet4rabetмостбет1win loginpin up 777mostbet1 вин авиаторpin uplucky jet1 winpin up4rabetpinupmosbet1 winmostbet azluckygetmostbetmosbetmostbet casino1wınparimatch

คุณค่าของชีวิต

“อันความหวัง ตั้งไว้ ให้สูงส่ง

เหมือนเป็นธง นำเรา ก้าวไปหน้า

แม้นสุดฤทธิ์ ไปไม่ถึง กึ่งมรรคา

ยังดีกว่า หมดหวัง ถอยหลังเอย”

“ชีวิต” แปลตามความหมายของรากศัพท์เดิมที่มาจาก “ภาษาบาลี” ว่า “ความเป็นอยู่”, “ความดำรงอยู่” หรือ “ความมีอยู่” แปลเอาความหมายว่า “สิ่งที่มีความรู้สึก นึกคิด มีการรับรู้ สามารถแสดงออกหรือตอบโต้ หรือมีปฏิกิริยาต่อสิ่งแวดล้อมปัจจัยต่างๆ ที่เข้ามากระทบทางใดทางหนึ่ง” เรียกว่า “ชีวิต”

การดำรงอยู่ของชีวิต หมายถึง การดำรงอยู่ของสรรพสิ่งทั้งที่เป็นพืชและสัตว์ สำหรับพีชนั้น ก็มีปฏิกิริยาโต้ตอบ หรือแสดงออกมาเมื่อถูกปัจจัยหรือสิ่งแวดล้อมต่างๆ มากระทบ หรือมาบีบคั้นได้ เช่น สภาพอุณหภูมิ ดิน ปุ๋ย สารอาหาร และน้ำ เป็นต้น ซึ่งหากได้รับในปริมาณที่พอเหมาะพอดี พืชก็จะเจริญเติบโตได้ดี ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับชนิดของพืชนั้นๆ ด้วย

พืชบางชนิด เกิดในน้ำ พืชบางชนิดเกิดในที่ชื้นเฉะ บางชนิดเกิดบนบก บางชนิดเกิดในเขตหนาว บางชนิดเกิดในเขตร้อน บางชนิดเกิดในทะเลทราย

หากพืชได้รับปัจจัยหรือสิ่งแวดล้อมที่ไม่พอเหมะพอดี คือ ได้รับในปริมาณที่น้อยเกินไป หรือมากเกินไป ก็ส่งผลให้พืชชนิดนั้นๆ ไม่สมบูรณ์แข็งแรงหรือตายไปในที่สุด เพียงแต่พืชเป็นสิ่งที่ไม่มีวิญญาณครองหรือมีอารมณ์รับรู้เสวยอารมณ์เหมือนกับสัตว์มีชีวิตก็เท่านั้น

สำหรับการดำรงอยู่ของสัตว์นั้น ก็ไม่แตกต่างจากพืชเท่าใดนัก เมื่อกล่าวถึงด้านกายภาพ คือด้านโครงสร้างและสภาพร่างกายต่างๆ เมื่อได้รับผลกระทบจากปัจจัยสิ่งแวดล้อมต่างๆ เช่นสภาพภูมิอากาศ อาหาร น้ำ หรือปัจจัย ๔ แล้ว ก็อาจจะส่งโดยตรงต่อสภาพร่างกายโดยตรง

กล่าวในทางที่ดีก็คือ ทำให้ร่างกายมีสุขภาพดี สมส่วน สมบูรณ์ ไม่แคระแกร็น ไม่มีโรคภัยเบียดเบียน ร่างกายแข็งแรง

ในทางตรงกันข้าม หากปัจจัยสภาพแวดล้อมต่างๆ หรือปัจจัย ๔ ที่ได้รับไม่มีคุณภาพดีพอ ขาดแคลน หรือไม่สามารถเข้าถึงได้ ก็ส่งผลให้ร่างกายไม่สมบูรณ์ ไม่สมส่วน แคระแกร็น เป็นโรคภัย ไม่แข็งแรง และอาจส่งผลให้ทุพพลภาพและนำไปสู่การสูญเสียชีวิตได้ในที่สุด

แต่ชีวิตของสรรพสัตว์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งชีวิตของมนุษย์เรา ไม่ได้ประกอบด้วยร่างกายเพียงส่วนเดียวเท่านั้น แต่ชีวิตของเรานั้นประกอบไปด้วย ๒ ส่วนสำคัญใหญ่ๆ อันได้แก่

๑) ร่างกาย และ ๒) จิตใจ

ซึ่งร่างกายที่ไม่สมบูรณ์แข็งแรงก็อาจส่งผลกระทบที่ไม่ดีไปถึงสภาพจิตใจได้ด้วยเช่นเดียวกัน และต่อให้ร่างกายของเรามีความสมบูรณ์แข็งแรง สุขภาพดีหรือไม่ เพียงใดก็ตาม หากจิตใจทรุดโทรม เศร้าโศก สูญเสีย ซบเซา เซื่องซึม หมดหวัง ไม่มีกำลังใจที่จะอยู่มีชีวิตต่อไปแล้วละก็ นั่นเป็นสัญญาณสำคัญของชีวิตที่ “ย่ำแย่” และบ่งบอกว่าชีวิตของคุณเข้าสู่สภาวะที่ “วิกฤตอันตราย” แล้ว

ชีวิตของคนเราทุกคนล้วนแล้วแต่อยู่ได้ก็ด้วยมี “เป้าหมาย” หรือมี “ความหวัง” ทั้งนั้น เพราะชีวิตของคนที่ไม่มี “เป้าหมาย” และ “ความหวัง” ก็เปรียบเสมือนกับเรือที่ลอยเคว้งคว้างอยู่กลางมหาสมุทร ที่ไม่รู้ทิศทางและแลไม่เห็นฝั่งที่จะข้ามไปถึง ่ย่อมที่จะใช้ชีวิตแบบหลงระเริง มัวเมา หรือมืดบอด มีชีวิตอยู่ไปวันๆ แบบไม่ได้ตั้งเป้าหมาย ไม่ได้ตั้งความหวังอะไรให้กับชีวิต มีชีวิตอยู่เพียงแต่สักว่ามีลมหายใจเข้าออกเท่านั้น ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์กับทั้งตนเองและผู้อื่น มีชีวิตอยู่เพื่อรอความตาย หรือจุดจบของชีวิตที่ย่างกรายเข้ามาใกล้ทุกขณะลมหายใจเท่านั้น

ส่วนชีวิตของคนที่เต็มเปี่ยมไปด้วย “เป้าหมาย” และ “ความหวัง” เปรียบเสมือนกับเรือที่มีเข็มทิศคอยบอกตำแหน่งของเรือและเป้าหมายที่จะไป ทำให้มีความแน่วแน่ มั่นคงมุ่งมั่นไปสู่ฝั่งที่หวังไว้ ถึงแม้ระยะทางจะยาวไกลสักเพียงใด ก็ไม่หวาดหวั่นพรั่นพรึง หากแต่จะยิ่งเพิ่มความพยายามที่จะเข้าใกล้ฝั่งมากขึ้นเป็นเท่าทวีคูณ ประหนึ่งคนที่ตั้งเป้าหมายของชีวิตชัดเจน และมีลมหายใจแห่งความหวังอย่างใดอย่างหนึ่ง แล้วดำเนินชีวิตมุ่งไปสู่เป้าหมายและทำความหวังอันนั้นให้เป็นจริงให้จงได้

ถึงแม้ในความเป็นจริงแล้ว ทุกชีวิตอาจไม่ประสบความสำเร็จในการทำชีวิตให้เข้าถึงเป้าหมายและทำความหวังที่ตั้งไว้ให้เป็นจริงได้ทุกคน

หากแต่เมื่อตั้งเป้าหมายและความหวังไว้อย่างชัดเจนแล้ว มุ่งมั่นทุกวิถีทางที่จะนำพาตนให้ได้บรรลุเป้าหมายและความหวังที่ได้ตั้งเอาไว้อย่างเต็มกำลังความสามารถและศักยภาพของตนแล้ว ไม่อาจจะบรรลุเป้าหมายหรือทำความหวังให้เป็นจริงได้ อย่างน้อยที่สุด ก็ได้ทำเต็มที่แล้ว ผลจะออกมาอย่างไรก็ต้องยอมรับ

เพียงแต่ว่าคนประเภทนี้ จะไม่มีวันยอมแพ้อะไรง่ายๆ ล้มแล้วสามารถลุกขึ้นมาต่อสู้ใหม่ได้ทันที เพราะคนที่มี “เป้าหมาย” และ “ความหวัง” ในชีวิต “จะไม่ล้มนาน”

ดังนั้น จึงสรุปได้ว่า ชีวิตที่มี “เป้าหมาย” และชีวิตที่มี “ความหวัง” เป็นชีวิตที่ “ดี” เป็นชีวิตที่ “น่าสนใจ” เป็นชีวิตที่ “น่าติดตาม” เป็นชีวิตที่ “น่านับถือ” เป็นชีวิตที่ “น่าเอาเป็นตัวอย่าง” เป็นชีวิตที่ “ก่อให้เกิดแรงบันดาลใจ” เป็นชีวิตที่ “ไม่โมฆะ” เป็นชีวิตที่ “ไม่ว่างเปล่า” เป็นชีวิตที่ “ไม่ไร้สาระ” เป็นชีวิตที่ “มีประโยชน์” เป็นชีวิตที่ “มีราคา” และเป็นที่ชีวิตที่ “มีคุณค่า”

หากปราศจาก “เป้าหมาย” และ “ความหวัง” แล้ว ชีวิตทุกชีวิตก็ย่อมจะ “ไร้ค่า” และ “หมดราคา” ชีวิตที่มี “เป้าหมาย” และ “ความหวัง” ย่อมจะเป็นแรงผลักดันให้ต่อสู้ไปจนประสบความสำเร็จตามเป้าหมายและความหวังที่ตั้งไว้ได้ในที่สุด

เพราะความหวังที่ทำได้จริง เรียกว่า “แรงบันดาลใจ” ส่วน ความหวังที่ทำไม่ได้จริง ก็คงเป็นเพียงแค่ “ความฝัน” เท่านั้น

ดังนั้น หากประสงค์ให้ชีวิต “มีคุณค่า” หรือ “ทรงไว้ซึ่งคุณค่า” จึงควรดำเนินชีวิตไปโดยอาศัยแรงดึงดูดของ “เป้าหมาย” และพลังแห่ง “ความหวัง” สมกับถ้อยสำนวนที่ว่า “ถึงแม้จะเป็นเพียงแค่ความฝัน ก็ยังดีกว่าไม่ได้ฝันอะไรไว้เลย มาทำชีวิตของเราให้ “มีคุณค่า” ด้วยการตั้ง “เป้าหมาย” และ “ความหวัง” กันเถอะ

ขอเป็นกำลังใจให้ “นักสู้ชีวิต”, “นักเดินทาง” และ “คนช่างฝัน” ทุกท่านครับ

ใส่ความเห็น