pin up1 winaviator mostbetpinup casino1 winmostbet kzmosbet casinoaviatorlucky jet1 winpin up casino india1win slotlucky jet casinopinup az4r betmosbet indiamosbet aviatormostbet casino1win kz1 win4rabet indiapin-up kzmosbetmosbet1 win1win1win aviatorpin upparimatchlucky jet4rabetмостбет1win loginpin up 777mostbet1 вин авиаторpin uplucky jet1 winpin up4rabetpinupmosbet1 winmostbet azluckygetmostbetmosbetmostbet casino1wınparimatch

ผู้นำอ่อนน้อม (Humble Leader)

ลักษณะของผู้นำในยุคปัจจุบันนั้น นอกจากจะเป็นคนเก่ง คนมีความรู้ และคนมีความสามารถรอบด้านแล้ว สิ่งสำคัญประการหนึ่งที่ผู้นำทุกคนต้องคำนึงถึงและควรให้ความสำคัญควบคู่กันไปด้วยก็คือ ความอ่อนน้อม ความถ่อมตัว ความเข้าถึง ความเข้าใจความต้องการและความรู้สึกนึกคิดของผู้ตามร่วมด้วย

ดังนั้น ผู้นำที่ประสบความสำเร็จในการนำทีมหรือนำองค์กรให้ประสบความสำเร็จได้คือผู้นำที่มีความเข้าอกเข้าใจผู้ตาม และสนองตอบต่อความต้องการของผู้ตามได้เป็นอย่างดี สร้างความพึงพอใจ ความประทับใจ ความเชื่อใจ และความสุขใจให้กับผู้ตามได้นั่นเอง

ผู้นำที่ประสบความสำเร็จ และสามารถเข้าไปนั่งอยู่ในใจของผู้ตามได้ จึงมีลักษณะเด่นที่เรียกว่า “ความอ่อนน้อมถ่อมตัว” เข้ามาประกอบด้วย

ผู้นำที่ประสบความสำเร็จในยุคปัจจุบัน จึงไม่ใช่ผู้นำที่เก่ง ผู้นำที่มีความสามารถโดยลำพังตัวผู้นำอีกต่อไป แต่หมายถึงต้องมีความเข้าใจ และได้ใจจากผู้ตามด้วย

ซึ่งการที่ผู้นำจะได้รับความรัก ความเชื่อถือ ความเชื่อมือ และความเชื่อใจจากผู้ตามได้นั้น ผู้นำต้องรู้จักอ่อนน้อม ถ่อมตัว ถ่อมตน ไม่ใช่อวดเก่งอยู่แต่เพียงผู้เดียว ไม่ฟังเสียงคนอื่นเลย อย่างนี้ก็คงเป็นผู้นำที่ดีในยุคนี้ สมัยนี้ไม่ได้

“ผู้นำอ่อนน้อมถ่อมตัว” มีลักษณะเป็นอย่างไร…? ผู้นำถ่อมตัว คือ ผู้ที่มีลักษณะดังนี้

1) มีความเอาใจใส่ รู้จักรับฟัง ฟังมากกว่าพูด รู้จักมองจากมุมมองของคนอื่น โดยส่วนใหญ่แล้ว ผู้นำมักจะมีความเชื่อมั่นในความรู้ความสามารถ และประสบการณ์ของตัวเองเป็นสำคัญ น้อยนักที่จะรับฟังความคิดเห็นจากคนอื่น หรือหากจะรับฟัง ก็รับฟังแบบผ่านๆ พอเป็นพิธี ไม่ได้ให้ความสนใจหรือให้ความสำคัญอะไรมากมาย เพราะมักจะมีธงอยู่ในใจแล้ว

ดังนั้น ถ้าจะเป็นผู้นำที่ให้ได้ใจผู้ตาม ต้องรู้จักเอาใจใส่ รับฟังทุกความคิดเห็นของคนอื่นด้วย เพราะไม่แน่ว่าความคิดเห็นของคนอื่น อาจจะเป็นความคิดที่ดี เป็นความคิดที่เข้าท่า และเป็นความคิดที่ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อทีมหรือองค์กรมากกว่าความคิดของผู้นำแค่เพียงคนเดียวก็ได้ เข้าทำนองที่ว่า “สองหัวหัวดีกว่าหัวเดียว”

2) กระจายอำนาจให้คนอื่น หรือให้อำนาจคนอื่นได้แสดงฝีไม้ลายมือ หรือแสดงความเก่ง ความสามารถ ดึงศักยภาพของตนเองออกมาได้อย่างเต็มศักยภาพ ไม่กลัวว่าลูกน้องจะเก่งกว่าตนเอง ต้องรู้จักใจกว้าง ให้โอกาสลูกน้องหรือทีมงานได้แสดงบทบาทออกมา สร้างความภาคภูมิใจในตนเองของแต่ละคน สร้างความรู้สึกถึงการมีส่วนร่วมหรือเป็นบุคคลที่มีความสำคัญในหน่วยงานหรือองค์กรนั้น เพราะอย่าลืมว่า ยิ่งผู้นำกดลูกน้องหรือผู้ตามให้ดูต่ำลง หรือกดไม่ให้ได้แสดงความรู้ความสามารถออกมาอย่างเต็มศักยภาพมากเท่าใด นั่นก็หมายความว่า เป็นการกดตัวผู้นำเอง รวมถึงเป็นการกดหน่วยงานและองค์กรนั้นให้ดูต่ำต้อยศักยภาพลงด้วยเช่นเดียวกัน

แต่ถ้าหากตัวผู้นำมีความใจกว้าง เปิดโอกาสให้ลูกน้อง ทีมงาน หรือผู้ตามได้แสดงความคิดเห็น มีอำนาจที่จะได้แสดงศักยภาพของตนออกมาได้อย่างเต็มที่ โดยที่ไม่เกรงว่าลูกน้องจะเก่งกว่าหรือมีความโดดเด่นกว่าตนเอง ทำได้อย่างนี้ ก็เท่ากับเป็นการโชว์ศักยภาพของผู้นำ โชว์ความเก่งกาจของผู้นำ โชว์ศักยภาพ ความน่าเชื่อถือ ความน่าเชื่อมือ และความน่าเชื่อใจของหน่วยงานและองค์กรนั้นๆ ไปในตัว

3) รู้จักสร้างความเป็นกันเองกับลูกน้องหรือทีมงาน รู้จักเข้าไปหา ไถ่ถามสารทุกข์สุขดิบ รู้จักเข้าไปพูด รู้จักเข้าไปคุย เข้าไปรับฟัง แต่ทั้งนี้ต้องไม่เข้าสร้างความรู้สึกกดดัน สร้างความลำบากใจหรือนร้างความรู้สึกไม่สบายใจให้กับลูกน้อง แต่ต้องรู้จักใช้ศิลปะการเข้าไปพูด เข้าไปเจรจาที่สามารถสร้างความเป็นกันเอง สร้างความรู้สึกดี มีอารมณ์ขัน และสร้างบรรยากาศของความผ่อนคลาย

การสร้างความเป็นกันเองกับลูกน้องอย่างนี้ จะทำให้ผู้นำได้รับข้อมูล ความรู้สึกนึกคิด ทัศนคติที่มีต่อหน่วยงานหรือองค์กร ได้รับทราบความเดือดร้อน ความต้องการ ความไฝ่ฝัน แนวคิดและมุมมองของลูกน้อง สามารถสร้างแรงหรือเสริมแรงลูกน้อง ให้รู้สึกได้ถึงความภาคภูมิใจในตนเอง มีความรู้สึกว่าตนเองมีความสำคัญ รู้สึกเป็นเจ้าของ มีสิทธิ์ มีส่วนร่วมอย่างสำคัญในหน่วยงานหรือองค์กร มีผลทำให้สามารถดึงศักยภาพของตนเองมาใช้ในการปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ผู้นำในยุคปัจจุบันนี้ จึงต้องปรับตนเอง หรือพัฒนาตนเองให้มีความเป็นผู้นำแบบอ่อนน้อมถ่อมตน ไม่เก่งแค่เพียงคนเดียว ไม่เด่นแค่เพียงคนเดียว แต่รู้จักยอมรับความคิดเห็นของคนอื่น รู้จักกระจายอำนาจให้คนอื่น รู้จักเปิดโอกาสให้คนอื่นได้แสดงบทบาท ความรู้ความสามารถ ดึงศักยภาพมาเพื่อใช้ในการพัฒนาหน่วยงานหรือองค์กร รู้จักเข้าไปสร้างความเป็นกันเองกับลูกน้อง สร้างบรรยากาศที่ดีในการทำงาน

เพราะฉะนั้น ผู้นำที่สามารถโน้มตนเองเข้าไปหาลูกน้องหรือผู้ตามได้อย่างนี้ ย่อมเป็นที่รักใคร่ เคารพ นับถือ และสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกน้องหรือผู้ตามได้อย่างแน่นอน…

ใส่ความเห็น