pin up1 winaviator mostbetpinup casino1 winmostbet kzmosbet casinoaviatorlucky jet1 winpin up casino india1win slotlucky jet casinopinup az4r betmosbet indiamosbet aviatormostbet casino1win kz1 win4rabet indiapin-up kzmosbetmosbet1 win1win1win aviatorpin upparimatchlucky jet4rabetмостбет1win loginpin up 777mostbet1 вин авиаторpin uplucky jet1 winpin up4rabetpinupmosbet1 winmostbet azluckygetmostbetmosbetmostbet casino1wınparimatch

รักษาไว้ให้ดี

หากแม้นว่า ยังมีสิ่ง ยิ่งยอดรัก

จงตระหนัก รักษ์ไว้ มิให้สูญ

หากวันหนึ่ง ถึงคราพราก ยากหยัดยืน

ถึงจำฝืน มิหวนกลับ ลาลับไกล

คนเรา มักมองข้ามคุณค่าของผู้ที่มีอยู่ใกล้ตัว และมักให้ความสำคัญกับผู้ที่อยู่ไกลตัวอยู่เสมอๆ นั่นอาจเป็นเพราะมองว่า สิ่งหรือบุคคลที่อยู่ใกล้ตัวเป็นของตาย เป็นสิ่งที่แม้ปรารถนาให้หายไปก็ไม่มีทางหายไปได้ เป็นของที่เราพอใจให้อยู่ก็อยู่ พอใจให้หายไปก็หายไป พอใจเรียกให้กลับมาก็กลับมา เป็นของที่ยังไงๆ ก็จะอยู่กับเราไปชั่วฟ้าดินสลาย ส่วนสิ่งที่อยู่ไกลตัวของเรานั้น หมายถึง สิ่งหรือบุคคลที่เรายังไม่มีโอกาสได้มีกรรมสิทธิ์ครอบครอง อยู่ในพื้นที่ที่ห่างไกลกันเหลือเกิน หรืออาจหมายถึงสิ่งหรือบุคคลที่แม้อยู่ใกล้แค่เอื้อม แต่ก็ยากที่จะเอื้อมคว้าให้กลายมาเป็นกรรมสิทธิ์อยู่ในความครอบครองของเราได้

เมื่อเป็นเช่นนี้ คนเราจึงมักโหยหา ให้คุณค่า ตระหนัก และให้ความสำคัญกับสิ่งหรือบุคคลที่อยู่ไกลตัวของเราอยู่เสมอๆ จนบางครั้ง ก็ละเลยที่จะให้ความสำคัญกับสิ่งหรือบุคคลที่อยู่ใกล้ตัวเราไปอย่างน่าเสียดาย

คนเราในปัจจุบันนี้ก็เช่นเดียวกัน มักจะให้ความสำคัญกับสิ่งหรือบุคคลที่อยู่ไกลตัว หรือสิ่งที่อยู่ไกลเกินเอื้อมถึง สิ่งหรือบุคคลที่อยู่ในอุดมคติ ความใฝ่ฝัน หรือภาพมายาคติ ที่ยากจะเอื้อมคว้ามาเป็นของตนเองได้

บางคนมัวแต่เฝ้ามองอย่างริษยากับสมบัติที่คนอื่นมี เช่น เห็นคนอื่นมีทรัพย์สินเงินทองมากมาย มีสามี-ภรรยา-บุตรธิดา ที่ดีกว่าเรา มองว่าคนเหล่านั้นโชคดีกว่าเรา วาสนาดีกว่าเรา ก็อยากมีอย่างเขาเหล่านั้นบ้าง แต่ในขณะเดียวกัน ก็ละเลยที่จะให้ความสำคัญ หรือภาคภูมิใจกับสิ่งหรือบุคคลที่อยู่ใกล้ชิดรอบตัวเราไปอย่างน่าเสียดาย

มีคำพูดอยู่คำหนึ่งที่สามารถเตือนสติ สะกิดสะเกาให้เราได้หวนมาตระหนักและให้ความสำคัญกับสิ่งหรือบุคคลที่อยู่ใกล้ชิดตัวเรามากขึ้นกว่าเดิม ได้แก่คำพูดที่ว่า

– เงินในกระเป๋าหรือบัญชีของคนอื่นตั้งหลายแสนล้าน ก็ไม่สำคัญเท่ากับเงินเพียง 20 บาท ในกระเป๋าหรือบัญชีของเรา

– ที่ดินของคนอื่นตั้งหลายร้อยไร่ ก็ไม่สำคัญเท่ากับที่ดินของเราเพียง 1 ตารางวา

– สร้อยคอทองคำที่คล้องอยู่กับคอของคนอื่นหนักตั้ง 10-20 บาท ก็ไม่สำคัญเท่ากับสร้อยคอทองคำหนักเพียงสลึงหนึ่งที่คล้องอยู่กับคอของเรา

– บ้านของคนอื่นราคาตั้งเป็นร้อยล้านพันล้าน ก็ไม่เท่ากับบ้านเรือนที่พักอาศัยที่เราอาศัยอยู่ในปัจจุบัน

– ภรรยา – สามี ของคนอื่น จะหน้าตาดี หุ่นดี บุคลิกดี นิสัยดี หน้าที่การงานดี มีชื่อเสียงเกียรติยศ และมีความร่ำรวยมั่งคั่งสักเพียงใดก็ตาม ก็ไม่สำคัญเท่ากับภรรยา – สามี คู่ชีวิตที่ฝากชีวิตไว้ให้กันและกันในปัจจะบันของเรา

– บุตร – ธิดา ของคนอื่น จะดีแค่ไหน การศึกษาสูงเพียงใด อาชีพการงานสูงส่ง ประสบความสำเร็จ สามารถสร้างชื่อเสียงเกียรติยศให้กับพ่อแม่และครอบครัวของเขาอย่างไรก็ตาม ก็ไม่สำคัญเท่ากับกับบุตร – ธิดาของเรา

นั่นเป็นเพราะว่าอะไร ก็เป็นเพราะว่า ของๆ คนอื่น หรือคนของคนอื่น ถึงแม้ว่าจะดีแค่ไหน อย่างไรก็ตาม ก็ยังเป็นของคนอื่นอยู่วันยังค่ำ เราจะไม่สามารถได้รับประโยชน์อะไรกับของหรือบุคคลเหล่านั้นเลย เพราะเป็นของคนอื่นเขา เป็นคนของคนอื่นเขา

ที่กล่าวอย่างนี้ ก็ไม่ได้หมายความว่า ผู้เขียนพยายามยุยง หรือปลุกปั่นท่านผู้อ่านทุกท่านให้เป็นคนอิจฉาตาร้อน หรือพยายามบอกให้แสดงออกถึงความไม่ยินดีในความสำเร็จของผู้อื่นแต่อย่างใด ทุกท่านยังคงชื่นชมและยินดีกับความสำเร็จของคนอื่นได้อยู่เช่นเดิม แต่ไม่ควรเอามาเปรียบเทียบกับสิ่งหรือบุคคลที่ใกล้ชิดเรา หรืออยู่ในกรรมสิทธิ์ความครอบครองของเรา เพราะนั่นอาจกลายเป็นสิ่งที่ทำให้เราไม่มีความสุขในสิ่งที่เรามีอยู่ เกิดการเปรียบเทียบ แล้วไปลงกับสิ่งของๆ เรา หรือไปลงกับคนของเรา หรือพาลให้มองสิ่งที่เรามีอยู่ หรือคนของเราเป็นสิ่งด้อยค่า ไม่มีราคา ไม่มีประโยชน์ไปเลยก็ได้

และที่กล่าวอย่างนี้ ผู้เขียนก็ไม่ได้หมายความว่า จะพยายามพูดกรอกหู ยุยง ปลุกปั่นทุกท่านให้มองข้ามการเปรียบเทียบกับคนอื่นไปเลยเสียทีเดียว การมองโลกด้วยการเปรียบเทียบนั้น ทุกท่านยังคงกระทำได้อยู่ต่อไป แต่ต้องเปรียบเทียบเพื่อให้เกิดประโยชน์ ไม่ใช่เปรียบเทียบเพื่อให้เกิดโทษ

การเปรียบเทียบเพื่อให้เกิดโทษ ก็อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่า การเปรียบเทียบสิ่งที่เรามีอยู่ หรือคนของเราว่าด้อยกว่าสิ่งของหรือคนของคนอื่น แล้วมาสร้างความรู้สึกว่าของๆ เรา หรือคนของเรานั้น แลดูด้อยค่า ด้อยราคา น่าอับอาย ไร้ความภาคภูมิใจ การมองด้วยความคิดเปรียบเทียบอย่างนี้ เป็นเปรียบเทียบที่ก่อให้เกิดโทษ ทำให้หมดความสุข หมดความภาคภูมิใจในสิ่งที่มี แล้วไปโทษสิ่งของหรือคนของเราว่าไม่ดี ไม่เด่น ไม่ดัง สู้คนอื่นไม่ได้ ทำให้ตัวเราเองเกิดความทุกข์ใจ และคนของเรารู้สึกหมดกำลังใจ หมดคุณค่า หมดประโยชน์ และค่อยๆ ถอยห่าง และจากเราไปอย่างไม่มีวันหวนกลับมาหาเราอีกเลยก็เป็นได้ การเปรียบเทียบอย่างนี้ นอกจากจะไม่มีอะไรดีขึ้นแล้ว ซ้ำร้าย ยังต้องสูญเสียสิ่งที่มีอยู่ไปอย่างน่าเสียดาย

ส่วนการมองเห็นว่าของคนอื่น หรือคนของคนอื่นดีอย่างไร และของเรามีข้อด้อยอย่างไร แล้วค่อยๆ ขยัน อดทน เก็บหอมรอมริบ สร้างขึ้นมาให้ได้เหมือนกับคนอื่น หรือการนำเอาความสำเร็จของคนอื่นมาเป็นแรงบันดาลใจ ปรับปรุง พัฒนาคนของเราให้มีคุณภาพเช่นเดียวกันกับคนของคนอื่นๆ เหล่านั้น เป็นการเปรียบเทียบที่ก่อให้เกิดประโยชน์ สร้างความสุขให้กับผู้เปรียบเทียบ รักษาสิ่งของที่มีอยู่เดิม รักษาคนของเราที่มีอยู่เดิมไว้ได้ ซ้ำยังสามารถพัฒนา ปรับปรุงสิ่งหรือคนของเราให้มีคุณภาพ ประสบความสำเร็จได้เช่นเดียวกับคนอื่น การมองโลกอย่างนี้ ถือว่ามีประโยชน์อย่างมาก และทำให้คนที่มีทัศนคติกับโลกเช่นนี้ มีความสุขในชีวิตได้อย่างไม่ยากเย็น

เคยสังเกตหรือไม่ว่า แม้แต่ในครอบครัวๆ หนึ่ง ก็ยังมีการเปรียบเทียบลูกๆ ของตนอย่างไม่เป็นธรรม เช่น มองว่าลูกที่ประสบความสำเร็จ มีการศึกษาดี มีหน้าที่การงานมั่นคง สร้างทรัพย์สินเงินทองสมบัติพัสถานต่างๆ ได้ สร้างครอบครัวเป็นฝั่งเป็นฝา ที่ไปตั้งรกรากภูมิลำเนาอยู่ในถิ่นที่อยู่ห่างไกลออกไป นานๆ ครั้ง ถึงจะมาเยี่ยมพ่อแม่ครั้งหนึ่ง คนผู้เป็นพ่อแม่เอง ก็มักจะให้ความสำคัญ พูดในเชิงสรรเสริญเยินยอลูกชายหรือลูกสาวคนนั้นอยู่ไม่ขาดปาก ซ้ำร้ายยังมาพูดเหน็บ กระแนะกระแหนลูกชายหรือลูกสาวคนที่อยู่ปรนนิบัติ บำรุง อุปัฏฐากดูแล ช่วยทำงานในบ้าน ช่วยทำงานในเรือกสวนไร่น่า หุงข้าวหุงปลาอาหารให้รับประทานอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ที่อาจจะไม่ประสบความสำเร็จในชีวิตใดๆ เป็นรูปธรรม หรือเป็นชิ้นเป็นอันให้เห็น หรืออาจประสบความสำเร็จไม่เท่ากับลูกคนอื่นๆ ว่า สู้คนพี่คนนั้นไม่ได้ สู้คนน้องคนนั้นไม่ได้ เมื่อพ่อแม่พูดแบบนี้บ่อยๆ ลูกคนที่อยู่ด้วยก็เริ่มท้อใจ น้อยใจ หมดกำลังใจ ในที่สุดก็อาจจะหนีจากพ่อแม่ไปเลยก็เป็นได้ และในทางตรงกันข้าง ก็ไม่เห็นมีลูกๆ คนที่ประสบความสำเร็จจนพ่อแม่ต้องพูดชมไม่ขาดปากคนไหนเลย มาอยู่ดูแลได้เหมือนลูกคนที่ไม่ประสบความสำเร็จคนนี้ เท่ากับว่า พ่อแม่ต้องสูญเสียคนที่อยู่ใกล้ชิดไปอย่างน่าเสียดาย เข้าทำนองคำพูดที่ว่า

บางครั้งเรามัวมองหาแต่สิ่งที่ขาด จนต้องพลาดในสิ่งที่มี

เพราะฉะนั้น จึงขอให้เรารักษาสิ่งที่เรามีอยู่นี้ให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะไม่แน่ว่า วันใดวันหนึ่ง สิ่งหรือคนที่อยู่ใกล้ชิดกับเราในวันนี้ อาจจะต้องพรากจากเราไปไกล …. เกินกว่าที่เราจะเรียกร้องให้กลับมาได้อีกเลยก็เป็นได้

รักษาและดูแลสิ่งที่คุณมีในวันนี้ให้ดีที่สุด จะได้ไม่ต้องเสียใจในภายหลัง…

“แพรวด้วยความรู้ พราวด้วยประสบการณ์”

ใส่ความเห็น