![](https://www.praewprouds.com/wp-content/uploads/2021/01/หนักนิดเบาหน่อย-1024x608.png)
หนักนิดเบาหน่อย ก็ปล่อยไปบ้าง (นะ ?)
หนักนิดเบาหน่อย หากต้องการสร้างความสุขให้เกิดขึ้นกับชีวิตของเราอย่างง่ายๆ โดยไม่ต้องลงทุนลงแรงอะไร ก็คงต้องหัดท่องคำว่าา “หนักนิดเบาหน่อย” ไว้ให้ขึ้นใจ และนำมาปฏิบัติในชีวิตจริงให้ได้ด้วย แล้วผลลัพธ์แห่งความสุขก็คงจะเกิดขึ้นภายในจิตใจของเราได้อย่างง่ายๆ เพราะเรื่องของ “ความผิดพลาด” นั้น สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน ในทุกสถานที่ ในทุกเรื่องราว แม้กระทั่งเรื่องที่เคยทำจนคุ้นชินเป็นนิสัย ก็อาจเกิดความผิดพลาดได้ด้วยเช่นกัน นับประสาอะไรกับเรื่องที่ยังใหม่และยังไม่คุ้นเคยสำหรับเราท่านทั้งหลาย เหมือนคำพังเพยโบราณท่านกล่าวไว้ว่า
“สี่เท้ายังรู้พลาด นักปราชญ์ยังรู้พลั้ง”
คำพังเพยนี้ ยืนยันการันตีได้เป็นอย่างดีว่า “ทุกคนมีโอกาสที่จะทำ “ผิด” “พลาด” “บกพร่อง” ได้ด้วยกันทั้งนั้น
![](https://www.praewprouds.com/wp-content/uploads/2021/01/ปลอบที่ผิดพลาด1.jpg)
หากจะพิจารณาโดยเนื้อหาสาระและประโยชน์แล้ว หากความผิดพลาดบกพร่องนั้นเกิดจากความไม่เจตนา หรือด้วยอำนาจแห่งความพลั้งเผลอสติไปบ้าง ก็ควรจะให้อภัยและมองข้ามความผิดพลาดเล็กๆ น้อยๆ นั้นไปเสีย
ทางออกก็คือ พยายามเฟ้นหา มองหาแต่สิ่งที่ดีๆ สิ่งที่ถูก สิ่งที่ควรของกันและกัน อย่ามัวแต่เฝ้ามองจับผิดกันและกันอยู่เลย เพราะแม้แต่เราเองผู้กำลังกระทำการเฝ้าสังเกตพฤติการณ์เพื่อจับผิดผู้อื่น ก็อาจกลายเป็นผู้ที่กำลังทำผิด ทำพลาด ทำบกพร่องเสียเองก็เป็นได้
![](https://www.praewprouds.com/wp-content/uploads/2021/01/ปลอบที่ผิดพลาด2.jpg)
ในยามที่เรากระทำ หรือพูดผิดพลาด บกพร่องไป “ตัวเราเอง” ยังหวังในใจลึกๆ ว่า “อยากให้คนอื่นมองข้ามไป หรือให้อภัยแก่เรา”
ในทางตรงกันข้าม เมื่อมีผู้ใดก็ตาม ที่เขาอาจจะเผลอไผลทำผิดพลาด บกพร่อง อย่างใดอย่างหนึ่งไป ตัวเราเองก็ควรจะเตรียมกาย เตรียมใจให้พร้อมเสมอ ที่จะให้ “อภัย” หรือ “มองข้าม” สิ่งผิดพลาด บกพร่องอันนั้นไป
เพราะ “อภัยทาน” เป็นการให้ที่มีผลานิสงส์แรง มีอานิสงส์มาก และก่อให้เกิดความ “สุขกาย” “สุขใจ” ทั้ง ๒ ฝ่าย อันหมายถึง ทั้ง “ผู้ให้อภัย” และ “ผู้ที่ได้รับการให้อภัย”
ในส่วนของผู้ที่ได้รับการให้อภัยเอง ก็ควรสำนึกสำเหนียกอยู่เสมอว่า เมื่อเราได้รับการให้อภัยแล้ว ก็ไม่พึงกระทำความผิดพลาดอันนั้นซ้ำซาก จำเจจนกลายเป็นบุคคลผู้น่าอิดหนาระอาใจ
หากแต่ต้องปรับปรุงตัวเองให้ดียิ่งขึ้นๆ ไม่พึงทำผิดซ้ำๆ โดยเฉพาะในเรื่องเดิมๆ เพราะหาไม่แล้ว เราก็จะเป็นคนไม่มีพัฒนาการ ไร้ค่าในสังคมอย่างแท้จริง
![](https://www.praewprouds.com/wp-content/uploads/2021/01/ปลอบที่ผิดพลาด3.jpg)
คนที่ได้รับการให้อภัยจากคนอื่นแล้ว ควรประพฤติตนให้สมควรแก่การเป็นผู้ได้รับการให้อภัยและได้รับโอกาส สมกับบทกลอนที่โบราณาจารย์ท่านประพันธ์ไว้ได้อย่างไพเราะและกินใจว่า
“ตนเตือนตนของตนให้พ้นผิด
ตนเตือนจิตของตนได้ใครจะเหมือน
ตนเตือนตนไม่ได้ใครจะเตือน
ตนแชเชื่อนถึงใครเตือนก็ป่วยการ”
ดังนั้น ในบรรยากาศของการอยู่ร่วมกันในสังคมโลกมนุษย์ จำเป็นอยู่เองที่จะต้องมีทั้ง “ผู้ให้อภัย” และ “ผู้รับการให้อภัย”
เพื่อที่สังคมนี้ จะเดินต่อไปได้อย่างไร้ความขุ่นข้องหมองใจ อันจะนำไปสู่ “ความขัดแย้ง” จากวงแคบๆ ไปสู่วงกว้าง จนยากเกินกว่าจะเยียวยาได้
หนักนิด….เบาหน่อย….ควรปล่อยผ่านไปบ้าง……แล้วจิตของเราจะว่าง เบาสบาย คลายความทุกข์
เพราะไม่มีใครในโลกมนุษย์ที่หนาไปด้วยกิเลสและตัณหาอย่างเราๆ ท่านๆ จะไม่เคยทำผิดพลาด กำลังทำผิดพลาด และก็รับประกันไม่ได้ว่าในอนาคตที่จะถึงข้างหน้านี้ เราจะมั่นใจได้อย่างแน่นอนว่าเราจะไม่ทำผิดพลาดอะไรเลย
![](https://www.praewprouds.com/wp-content/uploads/2021/01/ปลอบที่ผิดพลาด4-1024x515.jpg)
เอาใจเขา….มาใส่ใจเรา….หนักนิด…เบาหน่อย ค่อยๆ ปล่อยๆ ค่อยๆ วาง ค่อยๆ มองข้ามไปบ้าง หากมันจะทำให้สถานการณ์ดีขึ้นได้ ก็เป็นสิ่งที่เราท่านทั้งหลายจะพึงกระทำ …. มิใช่หรือ…???