pin up1 winaviator mostbetpinup casino1 winmostbet kzmosbet casinoaviatorlucky jet1 winpin up casino india1win slotlucky jet casinopinup az4r betmosbet indiamosbet aviatormostbet casino1win kz1 win4rabet indiapin-up kzmosbetmosbet1 win1win1win aviatorpin upparimatchlucky jet4rabetмостбет1win loginpin up 777mostbet1 вин авиаторpin uplucky jet1 winpin up4rabetpinupmosbet1 winmostbet azluckygetmostbetmosbetmostbet casino1wınparimatch

อานิสงส์การดูแลพ่อแม่

โดย : แพรวพราว ดอท คอม

เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า พ่อแม่เป็นผู้มีบุญคุณต่อลูกๆ อย่างหาที่สุดมิได้ เพราะตั้งแต่จำความได้ ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นลูกๆ ทุกคน ก็ได้รู้จักและจดจำใบหน้าของคุณพ่อคุณแม่ได้ก่อนใบหน้าของใครๆ ลูกๆ จดจำเสียงพูดของคุณพ่อคุณแม่ได้ก่อนเสียงใดๆ และสามารถเรียกคำว่า “พ่อ” คำว่า “แม่” ก่อนคำอื่นใด

ในยามที่เราเสียใจ เศร้าใจ ทุกข์ใจ ท้อใจ น้อยใจ หรือรู้สึกแย่ รู้สึกไม่ดีในครั้งคราใด คนที่เราจะนึกถึงคนแรกก็คือ “คุณพ่อ” และ “คุณแม่” ของเรานั่นเอง ที่เรานึกถึงคุณพ่อคุณแม่เป็นคนแรก ในยามที่เรารู้สึกแย่นั้น ก็เพราะว่า เรามีความไว้เนื้อเชื่อใจ เรามีความมั่นใจ ในความรักและความปรารถนาดีอย่างจริงใจของท่านที่มีต่อเรา มีความเชื่อและความมั่นใจอย่างแรงกล้าว่า มีแต่เพียงท่านทั้งสองคนนี้เท่านั้น ที่สามารถจะช่วยเหลือ ปลอบโยนและให้กำลังใจเราได้ ช่วยปัดเป่าทุกข์ภัยความเดือดร้อนให้เราได้อย่างบริสุทธิ์ใจ เหมือนในทุกๆ ครั้งที่ผ่านมา

ในยามที่เราประสบความสำเร็จหรือมีความสุขความสมหวัง คนที่แสดงออกถึงความยินดีกับเราอย่างจริงใจก่อนใครคนอื่นๆ ก็คือ คุณพ่อและคุณแม่ของเรานั่นเอง ซึ่งการแสดงออกถึงความยินดีของท่านทั้งสองที่มีต่อลูกๆ ของท่านนั้น อาจแสดงออกมาอย่างเปิดเผย อย่างออกหน้าออกตาหรือท่านจะเก็บอาการความชื่นชมยินดีไว้ในใจของท่านเพียงเท่านั้นก็ตามแต่ แต่สิ่งที่เปิดเผยออกมาอย่างเด่นชัดและไม่สามารถปกปิดได้อย่างแน่นอนเลยก็คือ “แววตาแห่งความสุข” ที่เปล่งประกายออกมาอย่างเห็นได้ชัด ในยามที่ลูกๆ ประสบความสำเร็จ มีชื่อเสียงเกียรติยศ ได้รับความชื่นชมยินดี และมีความสุข

นอกจากนี้ ในคัมภีร์ทางพระพุทธศาสนาคัมภีร์หนึ่งที่มีชื่อว่า “มังคลัตถทีปนี” หรือที่คนไทยเราเรียกติดปากแบบสั้นๆ เป็นแบบไทยๆ ว่า “มงคลทีปนี” ก็ได้รับรองไว้ว่า “การกตัญญูรู้คุณ” ต่อคุณพ่อคุณแม่ของเรา ถือว่า “เป็นมงคลอันสูงสุดในชีวิต” และ “การเลี้ยงดู อุปัฏฐากอุปถัมภ์คุณพ่อคุณแม่” ก็จัดว่า “เป็นมงคลอันสูงสุดในชีวิต”

สำหรับบทความนี้ จะกล่าวถึงอานิสงส์หรือสิ่งที่จะพึงได้รับจากการดูแลคุณพ่อคุณแม่ของเรา 13 ข้อ ได้แก่

  1. ทำให้มีความอดทน เพราะลูกๆ ที่ทำหน้าที่เลี้ยงดูบำรุงคุณพ่อคุณแม่เป็นผู้ที่มีคุณธรรมชั้นสูง ต้องอาศัยน้ำอดน้ำทน ต้องใช้ความเพียรพยายามในการบริหารจัดการเวลา และแบกรับภาระใส่ใจการดูแลอุปัฏฐากบำรุงท่านตามหน้าที่ที่ลูกๆ จะพึงกระทำต่อท่าน ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย หากปราศจากความอดทนแล้ว ก็ยากจะทำหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และทำหน้าที่ได้อย่างตลอดรอดฝั่ง
  2. ทำให้เป็นคนมีสติรอบคอบ ด้วยหน้าที่ที่ต้องเลี้ยงดูคุณพ่อคุณแม่ และการบริหารจัดการเวลา ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดในชีวิต จึงเป็นเรื่องที่ต้องใช้สติปัญญาในการบริหารจัดการ ดังนั้น จึงทำให้กลายเป็นคนที่ทำอะไรอยู่บนพื้นฐานของสติและสัมปชัญญะกำกับอยู่ตลอดเวลา อันเป็นเครื่องป้องกันการกระทำใดๆ ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดความผิดพลาดได้
  3. ทำให้เป็นคนมีเหตุผล อย่างที่ทราบกันดีแล้วว่า ผู้ที่ทำหน้าที่เลี้ยงดูคุณพ่อคุณแม่ได้อย่างสมบูรณ์แบบนั้น ต้องเป็นคนที่มีคุณธรรมชั้นสูงซึ่งเรียกว่า “ความกตัญญูกตเวที” คือนอกจากจะ “รู้คุณท่าน” แล้ว ยังจะ “ตอบแทนคุณท่าน” ด้วย และความกตัญญูกตเวทีนี่เอง ที่ถูกยกย่องให้เป็น “เครื่องหมายของคนดี” ดังนั้น ผู้ที่ดูแลเลี้ยงดูคุณพ่อคุณแม่จึงเป็นคนที่มีเหตุผลพิจารณาเห็นประโยชน์และอานิสงส์อันยิ่งใหญ่ที่จะพึงได้รับจากการดูแลคุณพ่อคุณแม่ ถึงขึ้นเรียกได้ว่า “เป็นผู้ที่เพียบพร้อมไปด้วยเหตุและผล” ก็ได้
  4. ทำให้พ้นทุกข์ได้ คนที่ทำหน้าที่เลี้ยงดูคุณพ่อคุณแม่ แม้บางครั้งชีวิตจะต้องประสบกับความทุกข์ยากอยู่บ้าง แต่ให้เชื่อเถอะว่า คุณที่เลี้ยงดูพ่อแม่จะทุกข์ได้ไม่นาน ด้วยอานิสงส์ของการเลี้ยงดูพ่อแม่ จะส่งผลดลบันดาลให้บุคคลเช่นนี้พ้นทุกข์ไปอย่างง่ายดายกว่าคนอื่นอย่างแน่นอนครับ
  5. ทำให้พ้นภัยได้ เช่นเดียวกันครับ คนที่เลี้ยงดูคุณพ่อคุณแม่อย่างดี ไม่ให้ขาดตกบกพร่อง ย่อมจะทำส่งผลเป็นอานิสงส์ให้พ้นจากผองภัยอันตรายทั้งปวงด้วย ทั้งนี้ก็เป็นเพราะอานิสงส์ของการเลี้ยงดูพ่อแม่นั่นเองเป็นสำคัญ
  6. ทำให้ได้ลาภโดยง่าย ลองสังเกตดูคนที่เลี้ยงดูคุณพ่อคุณแม่ส่วนใหญ่แล้วจะได้ดิบได้ดีกันทุกคน ชีวิตจะมีแต่ความเจริญรุ่งเรือง ทำมาค้าขายร่ำรวย เจริญด้วยยศถาบรรดาศักดิ์ มีชื่อเสียงเกียรติยศ คนนับหน้าถือตา เพราะคนที่เลี้ยงดูคุณพ่อคุณแม่ของตนเองนั้น ย่อมจะมีโชควาสนาดีกว่าคนอื่นนั่นเอง
  7. ทำให้แคล้วคลาดปลอดภัยในยามคับขัน อย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า อุปสรรค ข้อขัดข้อง และภัยอันตรายใดๆ ที่เกิดขึ้นแม้ในยามขับขัน เฉียบพลัน ก็ไม่อาจทำอะไรคนที่ทำหน้าที่เลี้ยงดูคุณพ่อคุณแม่ได้เลย เพราะการเลี้ยงดูคุณพ่อคุณแม่นั้น ย่อมส่งผลานิสงส์ให้คนๆ นั้น แคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายทั้งหลายทั้งปวง แม้ในยามที่ฉุกเฉิน คับขัน ก็สามารถเอาตัวรอดไปได้อย่างน่าอัศจรรย์
  8. เทวดาพิทัษ์รักษา ลูกๆ ผู้ทำหน้าที่เลี้ยงดูคุณพ่อคุณแม่ ย่อมเป็นที่ยกย่องสรรเสริญของคนทั่วไปในโลกมนุษย์ และแม้แต่พระอินทร์ท่านก็ชื่นชม พระพรหมท่านก็สรรเสริญ เทวดาผู้เป็นสัมมาทิฏฐิทั้งปวงก็ย่อมให้การคุ้มครองพิทักษ์รักษาคนดีเช่นนั้นด้วย
  9. ผู้คนยกย่องสรรเสริญ เป็นเรื่องแน่นอนอยู่แล้วว่า ผู้ที่ทำหน้าที่เลี้ยงดูคุณพ่อคุณแม่นั้น เป็นเรื่องที่ทำให้สมบูรณ์ได้ยากมาก ผู้ที่ทำหน้าที่ตรงนี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ จึงเป็นที่ยกย่องสรรเสริญว่า “เป็นคนดี” เพราะความกตัญญูรู้คุณและตอบแทนคุณคุณพ่อคุณแม่ผู้เป็นบุพการี เคยทำอุปการคุณแก่เราก่อน นับว่าเป็นเครื่องหมาย เป็นพื้นฐานของ “คนดี”
  10. มีความเจริญก้าวหน้า คนผู้ทำหน้าที่เลี้ยงดูคุณพ่อคุณแม่ ย่อมได้รับความเจริญรุ่งเรืองก้าวหน้าได้ไกล ก้าวหน้าได้ไกลกว่าใครๆ ทั้งนี้ ก็ด้วยผลานิสงส์แห่งการเลี้ยงดูคุณพ่อคุณแม่อย่างเต็มกำลังความสามารถ ในฐานะของลูกๆ ที่พึงกระทำต่อผู้มีพระคุณนั่นเอง จะสังเกตเห็นได้ว่า ในสังคมที่เราอยู่ในปัจจุบันนั้น คนที่มีควากตัญญูดูแลเลี้ยงดูคุณพ่อคุณแม่มักจะได้ดิบได้ดี มีความเจริญรุ่งเรืองกันทุกคน
  11. ถ้ามีลูก ลูกจะได้ดี เหตุผลเดียวกันกับที่เราตั้งใจเลี้ยงดูอุปัฏฐากบำรุงคุณพ่อคุณแม่ของเราอย่างดีที่สุด เท่าที่ลูกคนหนึ่งจะสามารถทุ่มเททำให้ได้ ถึงในยามที่เรามีลูกๆ เป็นของเราเองบ้าง ก็ให้มั่นใจได้เลยว่า ลูกๆ ของเราก็จะดูแลเลี้ยงดูเราเป็นอย่างดี เช่นเดียวกับที่เราดูแลเลี้ยงดูพ่อแม่ของเราเป็นอย่างดีก็ไม่แพ้กัน นี่เป็นอานิสงส์ของคนที่เลี้ยงดูคุณพ่อคุณแม่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ เมื่อลูกๆ ของเรา เห็นความดีที่เราปฏิบัติต่อคุณพ่อคุณแม่ของเรา เขาก็ขอยึดถือเราเป็นตัวอย่างบ้าง ดังนั้น จึงไม่ต้องแปลกใจเลยที่จะมั่นใจได้ว่า ลูกๆ ของเราทุกคนจะต้องได้ดิบได้ดี เจริญก้าวหน้าตามรอยแนวทางปฏิบัติของเราอย่างแน่นอนที่สุด
  12. ทำให้มีความสุข จริงอยู่ การอุปัฏฐากบำรุงเลี้ยงดูคุณพ่อคุณแม่ นอกจากจะต้องมีความทุ่มเท เสียสละ และต้องมีคุณธรรมอันดีอยู่ประจำใจแล้ว สิ่งที่ทำให้เราสามารถทำหน้าที่เลี้ยงดูคุณพ่อคุณแม่ของเราได้เป็นอย่างดี นั่นก็คือ ความสุขใจที่ได้ทำหน้าที่ ความสุขใจที่ได้เห็นคนที่เรารักมีความสุข ความสุขใจที่ได้ทำหน้าที่ตอบแทนผู้มีพระคุณของเรา ความสุขใจและภาคภูมิใจที่ได้ทำหน้าที่ของลูกๆ ที่ดี นี่คืออานิสงส์ที่จะพึงได้รับในข้อที่ 12 นี้
  13. เป็นตัวอย่างที่ดีแก่อนุชนรุ่นหลัง หมายความว่า การทำหน้าที่เลี้ยงดูคุณพ่อคุณแม่นี้ ถือเป็นการทำหน้าที่ของลูกที่ดี ถือว่าเป็นการทำหน้าที่ของคนดี ถือว่าเป็นการทำหน้าที่ของคนที่มีความกตัญญูกตเวทีต่อบุพการี ถือได้ว่าเป็นการทำหน้าที่ที่ควรยึดถือเป็นแบบอย่างในการใช้ชีวิตของคนในรุ่นหลัง เมื่อตัวเราเองทำหน้าที่เลี้ยงดูคุณพ่อคุณแม่เป็นอย่างดี ลูกๆ ของเราเห็นบุญกิริยาที่เราปฏิบัติต่อคุณพ่อคุณแม่ของเราอย่างไร ลูกๆ ของเราก็จะพึงปฏิบัติกับเราอย่างนั้น และหลาน เหลน โหลน ในรุ่นต่อๆ ไป ก็จะยึดถือปฏิบัติตามแบบอย่างที่เราได้กระทำต่อๆ กันมา รวมไปถึงบุคคลบริวารแวดล้อมเรา หรือคนที่รู้จักมักคุ้น คนบ้านใกล้เรือนเคียงของเรา เห็นแนวทางปฏิบัติที่ดีงามของเรา ก็จะน้อมนำเอาไปประพฤติปฏิบัติขยายผลต่อไป ยังประโยชน์ให้เกิดขึ้นแก่สังคมส่วนรวมอย่างกว้างขวาง สร้างมาตรฐานของลูกๆ ที่ดี ที่มีหน้าที่เลี้ยงดูพ่อแม่ผู้มีพระคุณของเราให้ดีที่สุด เฉกเช่นที่ท่านได้เคยเลี้ยงดูเรามานั่นเอง

เมื่อเราทราบอานิสงส์ของการเลี้ยงดูคุณพ่อคุณแม่ของเรา ว่าก่อให้เกิดอานิสงฆ์มากมายหลายประการถึงเพียงนี้ เรามาทำหน้าที่ของลูกที่ดี ทำหน้าที่ของคนดีกันตั้งแต่บัดนี้ ด้วยการเลี้ยงดูอุปัฏฐากบำรุงคุณพ่อคุณแม่ของเรา ด้วยการดูแลด้วยปัจจัย 4 และการดูแลด้วยวิธีการอื่นๆ อันได้แก่ อาหาร ที่อยู่อาศัย เสื้อผ้าอาภรณ์ การรักษาพยาบาล การพูดคุยให้กำลังใจ และสิ่งอื่นใดที่ทำให้ท่านรู้สึกมีความสุข ปลอดภัย อบอุ่นใจ และได้มีความภาคภูมิใจร่วมไปกับเรา เมื่อทำได้ดังนี้แล้ว ก็เป็นอันได้ทำหน้าที่ของลูกๆ ที่ดีต่อคุณพ่อคุณแม่ผู้มีพระคุณของเราอย่างสมบูรณ์แบบแล้ว แล้วคุณล่ะ….

“ทำหน้าที่ของลูกที่ดีแล้วหรือยัง….?

“แพรวด้วยความรู้ พราวด้วยประสบการณ์”

ใส่ความเห็น