pin up1 winaviator mostbetpinup casino1 winmostbet kzmosbet casinoaviatorlucky jet1 winpin up casino india1win slotlucky jet casinopinup az4r betmosbet indiamosbet aviatormostbet casino1win kz1 win4rabet indiapin-up kzmosbetmosbet1 win1win1win aviatorpin upparimatchlucky jet4rabetмостбет1win loginpin up 777mostbet1 вин авиаторpin uplucky jet1 winpin up4rabetpinupmosbet1 winmostbet azluckygetmostbetmosbetmostbet casino1wınparimatch

ธรรมคุ้มครองโลก

โลกจะแตกสลาย สังคมจะวุ่นวาย เพราะขาด 2 สิ่งนี้

หลายๆ คน เคยตั้งคำถาม และรู้สึกวิตกหวาดกลัวทุกครั้งที่ได้ยินข่าวว่าโลกจะแตก ข่าวอุกกาบาตหรือดาวหางพุ่งชนโลก ข่าวโลกร้อน ข่าวน้ำท่วมโลก ข่าวน้ำแข็งขั้วโลกละลายจนสภาพภูมิประเทศหรือลักษณะทางกายภาพของขั้วโลกนั้นเปลี่ยนแปลงไปจนน่าใจหาย

นี่เป็นการกล่าวถึงโลก ซึ่งเป็นเพียงหนึ่งในดาวเคราะห์ในระบบสุริยจักรวาล ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของมนุษย์ สัตว์ พืชพรรณต่างๆ รวมถึงดิน ฟ้า อากาศ น้ำ แร่ธาตุ อุณหภูมิ อันเป็นสภาพแวดล้อมภายนอกเท่านั้น ซึ่งก็ยังไม่แน่ใจว่าโลกในความหมายนี้จะถึงกาลแตกสลายหรือถึงจุดสิ้นสุดดับสูญลงเมื่อใด แต่นั้นก็ยังไม่น่ากลัวเท่ากับโลกในความหมายต่อจากนี้

โลกในความหมายที่จะกล่าวถึงต่อไปนี้ ก็คือ สังคมมนุษย์เรานี่เอง ซึ่งโลกในความหมายนี้ หากขาดสิ่งที่จะมาช่วยประคับประคอง คอยคุ้มครองป้องกันให้สังคมโลกนี้มีแต่ความสุข สดใส ปลอดภัย เป็นสังคมโลกที่มีแต่ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ช่วยเหลือเกื้อกูล มีน้ำใจไมตรี โอบอ้อมอารีแก่กันและกันเสียแล้ว สังคมโลกนี้ก็จะเต็มไปด้วยความความเลวร้าย และนั่นเป็นสัญญาณแห่งความแตกสลายของสังคมโลกในความหมายนี้

ไม่ว่าจะเป็นสังคมใดก็ตามที่มีความแก่งแย่งชิงดี สับสนวุ่นวาย เดือดร้อนระส่ำระสายอยู่ทั่วทุกหัวระแหง สังคมนั้น ย่อมไม่เป็นที่ปรารถนาต้องการสำหรับใครทั้งนั้น เพราะเป็นสังคมที่ไม่น่าอยู่ เป็นสังคมที่ไม่น่าอาศัย เป็นสังคมที่ไม่น่าข้องแวะเกี่ยวข้อง เป็นสังคมที่น่ากลัว เป็นสังคมที่น่าอิดหนาระอาใจ เป็นสังคมที่มีแต่จะรอวันล่มจมล่มสลายไปในที่สุด

สิ่งที่คนเราต้องประสบพบเจอกันทุกวันนี้ คือสังคมแห่งการเห็นแก่ตัว สังคมแห่งการเอาตัวรอด สังคมแห่งการเอารัดเอาเปรียบกัน สังคมแห่งความเหลื่อมล้ำ สังคมแห่งความไม่เท่าเทียมไม่เสมอภาค สังคมที่แบ่งแยกบุคคลให้แตกต่างกันด้วยชาติพันธ์ุ ภาษา ถิ่นที่อยู่อาศัย ประเพณีวัฒนธรรม ฐานะทางการเงิน และฐานะทางสังคม เป็นสังคมที่มีการก่อเหตุจี้ปล้นโจรกรรม ก่ออาชญากรรม และการก่อการร้ายไม่เว้นแม้แต่ในตัวเมืองใหญ่ๆ ซึ่งเคยอ้างกันว่าเป็นพื้นที่ปลอดภัย หรือ Save zone

แต่เราเคยตั้งคำถาม เคยสังเกตสังกา หรือเคยคิดเอะใจอะไรบ้างไหมว่า สาเหตุที่สังคมต้องมาแหลกเหลวเลวร้าย กลายเป็นสังคมที่น่ากลัวปราศจากความปลอดภัยอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ มีสาเหตุมาจากอะไรกันแน่ ซึ่งสาเหตุของปัญหาสังคมโลกแตกในความหมายนี้ก็มาจากการที่ผู้คนในสังคมนั้นขาด 2 สิ่งสำคัญ คือ

1. หิริ

หิริ แปลว่า ความละอายใจ หมายถึง ความรู้สึกกระดากอาย สะอิดสะเอียน ขยะแขยง เป็นความรู้สึกไม่อยากเข้าไปข้องแวะ สัมผัส พบเห็น ได้ยิน หรือเข้าไปเกี่ยวข้องใดๆ โดยสิ้นเชิง ซึ่งความหมายของความละอายใจในที่นี้ก็คือ ละอายต่อการคิดชั่ว ละอายต่อการทำชั่ว ละอายต่อการพูดชั่ว รู้สึกสะอิดสะเอียน กระดากอายต่อความชั่วทุจริตทุกชนิด ไม่อยากเข้าไปเกี่ยวข้อง เปรียบเสมือนคนที่อาบน้ำแต่งตัว ทาแป้ง ฉีดน้ำหอม มีเนื้อตัวสะอาดสะอ้านแล้ว ก็ไม่ยากจะเข้าไปใกล้กองอุจจาระ เปือกตมหรือกองขยะเป็นที่ทิ้งสิ่งปฏิกูลใดๆ ฉะนั้น

2. โอตตัปปะ

โอตตัปปะ หมายถึง ความเกรงกลัวต่อบาป ต่อความชั่ว ต่อการทุจริตอกุศลทุกอย่าง ความกลัวบาป กลัวกรรมชั่ว กลัวต่อการทุจริตคอรัปชั่น กลัวต่อการเบียดเบียนบีทาเอารัดเอาเปรียบผู้อื่นด้วยวิธีการใดๆ ทั้งหมด ซึ่งคำว่า “กลัว” ในที่นี้ ไม่ใช่ความกลัวถูกจับได้ หมายถึงอยากจะทำชั่ว อยากจะพูดชั่ว หรือพูดไม่ดีอย่างไร ก็ไม่อาจจะทำไม่อาจจะพูดได้ เพราะเกรงกลัวต่อกฎหมายบ้านเมือง กลัวถูกตำหนิ กลัวถูกนินทา กลัวถูกตำรวจจับ กลัวถูกปรับสินไหม หรือกลัวถูกลงโทษคุมขัง ถูกวิสามัญฆาตกรรม แต่ความกลัวในที่นี้ เป็นความกลัวต่อบาป เพราะเล็งเห็นผลอย่างแท้จริงของความชั่วความเลวนั้นๆ เปรียบเสมือนคนที่ไม่กล้าเอามือไปจับก้อนถ่านไฟ หรือเปลวไฟ เพราะกลัวความร้อนจากไฟ ฉะนั้น หรือไม่ก็เปรียบเสมือนคนที่ไม่กล้าเอาอวัยวะใดๆ ไปสัมผัสถูกต้องกระแสไฟฟ้า หรือสิ่งซึ่งเป็นตัวนำไฟฟ้า เพราะกลัวถูกไฟฟ้าช็อตเสียชีวิตฉะนั้น ความกลัวในที่นี้ มุ่งไปที่ความเกรงกลัวผลของความชั่วที่จะตามมานั่นเอง

การที่โลกนี้ หรือการที่สังคมนี้ ต้องวุ่นวายเดือดร้อน ระส่ำระสาย น่าวิตกหวาดหวั่นเกรงกลัว ปราศจากความปลอดภัยทั้งในชีวิตและทรัพย์สินอย่างที่เป็นอยู่ในทุกวันนี้ ก็เป็นเพราะคนเราขาดคุณธรรม 2 ข้อข้างต้นนั้น นั่นก็หมายความว่า โลกนี้มีคนที่ไม่ละอายต่อความชั่ว ไม่เคยเกรงกลัวต่อบาปมากขึ้นๆ ทุกวัน

ความไม่รู้จักละอายต่อความชั่ว ทำให้คนเรากล้าที่จะทำความชั่ว กล้าที่จะพูดชั่ว กล้าที่จะกระทำการอันเป็นเรื่องทุจริตคอรัปชั่นขึ้นในสังคมอย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไร (เพราะใครๆ เขาก็ทำกัน) เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว โลกนี้ก็จะเต็มไปด้วยการเอารัดเอาเปรียบกัน ประหัตประหารทำร้ายทารุณกรรมต่อกัน เต็มไปด้วยการทุจริตฉ้อโกงกันอย่างโจ่งแจ้งไร้มโนธรรมสำนึกใดๆ เกิดพฤติกรรมการลอกเลียนแบบจากบุคคลตัวอย่างในทางที่ไม่ดีเหล่านี้ จนเกิดเป็นความนิยมในการทำความชั่วความเลวมากขึ้นจนเป็นเรื่องคุ้นหูชินตาไปเสีย สังคมโลกก็เห็นทีจะต้องถึงกาลแตกสลายย่อยยับวิบัติดับสูญเป็นแน่แท้

เมื่อคนเราปราศจากความเกรงกลัวต่อความชั่ว ปราศจากความเกรงกลัวต่อการกระทำคำพูดอันส่อไปในทางทุจริตคอรัปชั่น เมื่อนั้นสังคมก็จะมีคนกล้าทำความชั่วมากขึ้นๆ เพราะผู้คนไม่ได้เคารพยำเกรงหรือหวาดกลัวต่อกฎหมายบ้านเมืองหรือหลักศีลธรรมอันดีของศาสนาที่ใช้เป็นเครื่องควบคุมสังคมให้อยู่ด้วยกันโดยสงบสันติอย่างที่เข้าใจกัน เป็นแต่เพียงเกรงกลัวต่อการถูกจับได้ ถูกตำหนิ ถูกนินทา ถูกกดดัน ถูกแบ่งแยก หรือถูกลงโทษเท่านั้นเอง เพราะหากไม่มีคนจับได้ หรือรู้เท่าทันแล้ว ก็จะเกิดความมั่นใจในการทำชั่วอย่างไม่เกรงกลัวอำนาจใด

นี่เป็นผลมาจากผู้คนขาดโอตตัปปะ คือความเกรงกลัวต่อบาปกรรมความเลวทรามทั้งมวด จึงกล้าที่จะทำร้ายทำลายชีวิตคนอื่น กล้าที่จะคิดโกงฉ้อราษฎร์บังหลวงเอารัดเอาเปรียบผู้อื่น กล้าที่จะนอกใจสามีและภรรยาของตนไปคบหามีความสัมพันธ์กับคนอื่น กล้าที่จะพูดให้การโกหกมดเท็จ พูดคำด่าทอหยาบคาย พูดประชดประชันส่อเสียด พูดเรื่องราวเหลวไหลไร้สาระหาประโยชน์ไม่ได้ กล้าที่จะเสพ-ขายสุรายาเสพติดต่างๆ กล้าที่จะแสวงหาประโยชน์ในมิจฉาอาชีพอันไม่สมควร

เมื่อทุกคนมีความกล้าไม่เกรงกลัวต่อบาปกรรมเช่นนี้ โลกนี้ก็หาความสงบสุขไม่ได้แม้เพียงตารางนิ้วเดียว เพราะไม่ว่าจะไปที่ไหน ก็ล้วนแล้วแต่ไม่ได้รับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน เกิดความอดอยากยากจน เศรษฐกิจย่ำแย่ สังคมต่ำทรามไปทั่วทุกหัวระแหง โลกนี้ก็คงจะถึงกาลวิบัติแตกสลายไปได้เช่นเดียวกัน

เมื่อคนเราขาดคุณธรรมคือ หิริ ความละอายชั่ว และโอตตัปปะ ความเกรงกลัวต่อบาป อย่างนี้แล้ว สิ่งที่จะคอยทำหน้าที่เป็นซูเปอร์ฮีโร่คุ้มครองโลกนี้อย่างธรรมะคุ้มครองโลก หรือธรรมะเป็นโลกบาลก็คงถูกทำลายให้พินาศย่อยยับ คงเหลือก็แต่ความสับสนเดือดร้อนวุ่นวาย เป็นสังคมที่ต้องลุกเป็นไฟและแตกสลายถูกทำลายไปในที่สุดโดยฝีมือของมนุษย์ (ชั่ว-เลว) ดังที่กล่าวมาแล้วนี้ อย่างไม่ต้องสงสัย

มาร่วมด้วยช่วยกันสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่สังคมโลกมนุษย์ ให้อยู่รอดปลอดภัยจากการแตกสลายมลายสูญ ด้วยการสร้างภูมิคุ้มกัน 2 สิ่งนี้ไปด้วยกัน แล้วสังคมโลกมนุษย์เราก็จะรอดพ้นจากปรากฏการณ์โลกแตกสลาย สังคมวุ่นวายที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ ณ ขณะนี้

แพรว…ด้วยความรู้ – พราว…ด้วยประสบการณ์